วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไม่มีการประนีประนอมในเรื่องศรัทธา

On November 21, 2018

คอลัมน์ สันติธรรม

ไม่มีการประนีประนอมในเรื่องศรัทธา

โดย บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 23-30 พฤศจิกายน 2561)

ชาวอาหรับกับชาวยิวเป็นชนชาติเซมิติค ซึ่งเป็นชนชาติเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี นักวิชาการกล่าวว่าชนชาตินี้เป็นลูกหลานของเชม บุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์ และคำว่าเซมิติคนี้มาจากคำว่าเชมนี่เอง

จะอย่างไรก็ตาม ชาวอาหรับและชาวยิวมีลักษณะทางวัฒนธรรมร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ การรักษาลำดับเชื้อสายวงศ์ตระกูลของตนไว้ เพื่อให้รู้ว่าตัวเองเป็นลูกหลานใคร และใครเป็นต้นตระกูลบรรพบุรุษของตน

Kabah

ในคัมภีร์ไบเบิลมีการลำดับเชื้อสายบรรพบุรุษของลูกหลานอิสราเอลไว้อย่างละเอียด จนทำให้ลูกหลานอิสราเอลหรือชาวยิวสามารถไล่ย้อนขึ้นไปถึงอับราฮัมผู้เป็นบรรพบุรุษทางเชื้อชาติและศาสนาของตน

ชนชาติอาหรับก็มีการลำดับเชื้อสายบรรพบุรุษของตนและสามารถไล่ย้อนขึ้นไปถึงอิบรอฮีมหรืออับราฮัมเช่นกัน ในคัมภีร์กุรอานมิได้มีการบันทึกลำดับเชื้อสายของชาวอาหรับไว้ แต่มีการบันทึกไว้ในเอกสารและความจำของคนบางคน ในอดีตชาวอาหรับคนใดที่สามารถจดจำเชื้อสายของบรรพบุรุษถือว่าเป็นผู้มีความรู้ที่ได้รับการยกย่องในสังคม

ด้วยการจดจำเชื้อสายบรรพบุรุษของชาวอาหรับนี้เองที่ทำให้เรารู้ว่าอิบรอฮีมหรืออับราฮัมเป็นบรรพบุรุษทางเชื้อชาติและศาสนาของชาวอาหรับเช่นเดียวกับลูกหลานอิสราเอล

ในการศึกษาประวัติศาสตร์ นักวิชาการมุสลิมไม่ปฏิเสธการบันทึกลำดับเชื้อสายของนบีบางคนในคัมภีร์ไบเบิล และอาศัยข้อมูลเหล่านี้ในการอ้างอิงทางประวัติศาสตร์

คัมภีร์ไบเบิลบันทึกไว้ว่า อับราฮัมมีลูกชายคนแรกชื่ออิชมาเอลกับนางฮาการ์ภรรยาคนที่สอง และยังบันทึกต่อไปอีกว่า อิชมาเอลมีลูกชายหลายคน หนึ่งในนั้นคือเคดาร์ที่ชาวอาหรับถือว่าเป็นต้นตระกูลของชาวอาหรับเผ่ากุเรช ซึ่งในเผ่านี้เองที่นบีมุฮัมมัดถือกำเนิดขึ้นมา

หลังจากมีลูกชายคนแรกกับภรรยาคนที่สองแล้ว อับราฮัมได้มีลูกชายคนที่สองชื่ออิชอัคกับนางซาราห์ภรรยาคนแรก ต่อมาอิชอัคมีลูกชายคนหนึ่งชื่อยาโกบ (หรือยะกู๊บ) ผู้ได้ฉายาว่า “อิสราเอล”

อับราฮัมมีความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว และเขาต่อต้านการเคารพกราบไหว้วัตถุ ดวงดาว และผีสางนางไม้ ถึงขั้นยอมเอาชีวิตเข้าแลก ความเชื่อและแนวทางการดำเนินชีวิตของอับราฮัมถูกเรียกว่า “ฮะนีฟ” ในภาษาอาหรับ ซึ่งหมายถึงความเชื่อและแนวทางอันบริสุทธิ์ นอกจากนี้แล้วอับราฮัมยังได้รับคัมภีร์จากพระเจ้าเช่นเดียวกับโมเสส คัมภีร์นี้ถูกเรียกว่า “ศุฮุฟ” ซึ่งปัจจุบันนี้ได้สูญหายไร้ร่องรอยไปหมดแล้ว

แต่กระนั้นความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวยังคงถูกถ่ายทอดสู่ลูกหลานของอับราฮัมมาโดยตลอด

เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลาม ความเชื่อของชนเผ่ากุเรชซึ่งเป็นเผ่าใหญ่ที่มีอำนาจและอิทธิพลในเมืองมักก๊ะฮฺได้ผิดเพี้ยนไปจากความเชื่อของอิบรอฮีมบรรพบุรุษของตน นบีมุฮัมมัดจึงได้เรียกร้องให้ชาวอาหรับเลิกเคารพกราบไหว้รูปปั้นและหันมาศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวเหมือนอิบรอฮีมบรรพบุรุษของพวกตน แต่ท่านกลับถูกต่อต้านโดยกลุ่มหัวหน้าเผ่าชาวกุเรช

ในเวลานั้นเผ่าอาหรับประกอบด้วยหลายตระกูล และหัวหน้าตระกูลใหญ่ๆเป็นสมาชิกสภาผู้ปกครอง แม้ผู้มีอำนาจหลายคนในเผ่ากุเรชไม่พอใจการเผยแผ่ศาสนาของนบีมุฮัมมัด แต่ก็ไม่กล้าทำร้ายท่าน เพราะลุงของท่านที่เป็นสมาชิกสภาผู้ปกครองคนหนึ่งได้ให้ความคุ้มครองเมื่อกำจัดนบีมุฮัมมัดด้วยกำลังไม่ได้ พวกผู้นำชาวกุเรชจึงส่งคนมาเจรจาประนีประนอมกับนบีมุฮัมมัด โดยยื่นข้อเสนอว่าให้ต่างฝ่ายต่างผลัดกันนับถือศาสนาของอีกฝ่ายหนึ่งคนละปี นบีมุฮัมมัดจึงขอคำตอบจากพระเจ้า และพระองค์ได้มีบัญชามายังท่านว่า :

“จงบอกพวกเขาเถิดว่า ‘ฉันไม่เคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านเคารพสักการะ และพวกท่านก็มิใช่ผู้เคารพสักการะพระองค์ผู้ที่ฉันเคารพสักการะ ฉันมิใช่ผู้เคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านเคารพสักการะ และพวกท่านก็มิใช่ผู้เคารพสักการะพระองค์ผู้ที่ฉันเคารพสักการะ พวกท่านนับถือศาสนาของพวกท่าน และฉันก็นับถือศาสนาของฉัน’” (กุรอาน 109:1-6)


You must be logged in to post a comment Login