วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

งบ-คนจน-เลือกตั้ง

On November 22, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 พ.ย.2561)

เหรียญมีสองด้าน ทุกอย่างมีสองมุม การเทกระจาดแจกเงินงบประมาณเกือบ 40,000 ล้านบาทในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง แม้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยจะได้รับประโยชน์ แต่หากมองมุมการเมืองก็น่าสนใจว่าคนเกือบ 16 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้จะตอบแทนกลับมาเป็นคะแนนเสียงให้พรรคการเมืองที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลทหาร คสช. คุมทัพอยู่กี่คะแนน เมื่อเทียบจากคะแนนเสียงการเลือกตั้งครั้งหลังสุดในปี 2554 ที่พรรคเพื่อไทยได้ 15,744,190 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ได้ 11,433,762 เสียง คะแนนเสียงที่อยู่ในมือของคนเกือบ 16 ล้านคนจึงมีนัยทางการเมืองที่น่าสนใจยิ่ง

การเทกระจาดใช้เงินงบประมาณแจกจ่ายประชาชนช่วงใกล้จะมีการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นล่าสุดจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคนพูดถึงหลากหลายแง่มุม หากพิจารณาให้ดีๆจะเห็นว่าการแจกครั้งนี้สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้หลายอย่าง

ในมุมของรัฐบาลแน่นอนว่าไม่มีใครยอมรับว่าการเทกระจาดแจกเงินงบประมาณครั้งนี้ทำเพื่อหวังคะแนนนิยมทางการเมือง ทุกเสียงต่างยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าทำเพื่อช่วยเหลือคนจนและเกษตรกร

เงินงบประมาณเกือบ 40,000 ล้านบาท จะถูกใช้ในหลายช่องทาง เช่น ให้เป็นของขวัญปีใหม่กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนคนละ 500 บาทเพื่อเอาไปจับจ่ายช่วงเทศกาล ให้เงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟเป็นเวลา 10 เดือน เดือนละ 320 บาท ช่วยค่าเช่าบ้าน 10 เดือน เดือนละ 400 บาทต่อคน ช่วยเหลือค่าเดินทางรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป คนละ 1,000 บาทในปี 2562

กรณีนี้ผู้ได้ประโยชน์คือผู้ถือบัตรคนจนจำนวน 14.5 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณ 38,730 ล้านบาท

งบประมาณอีกส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราในรูปเงินพัฒนาอาชีพเกษตรกรสวนยางไร่ละ 1,800 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งจะมีเจ้าของสวนยางและคนกรีดยางได้รับประโยชน์ประมาณ 1.3 ล้านคน

รวมแล้วจะมีประชาชนเกือบ 16 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จากการแจกตรงถึงมือในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่ใช่พวกรัฐบาลหรือสนับสนุนรัฐบาลจะเชื่อไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นการหว่านงบประมาณเพื่อหวังคะแนนเสียงเลือกตั้ง

นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เชื่อว่า การแจกเงินครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งให้ถึง 150 ที่นั่ง พร้อมเหน็บแนมว่าการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนทั้งประเทศมาแจกจ่ายเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่มีคุณธรรมสูงส่ง

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่ารัฐบาลทหาร คสช. บริหารประเทศมานาน 4 ปี 6 เดือนโดยที่ไม่มีฝ่ายค้านเลย แถมมีอำนาจพิเศษมาตรา 44 แต่ทำไมประเทศจึงมีคนจนมากถึง 14.5 ล้านคน นี่เป็นการสะท้อนถึงความล้มเหลวในการบริหารงานหรือไม่

นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งคำถามเช่นกันว่า การแจกเงินงบประมาณที่มี 4 รัฐมนตรีซึ่งเปิดตัวทำงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเหมาะสมหรือไม่ เอาเปรียบพรรคอื่นหรือไม่ หากต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความยากจนแบบยั่งยืน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างอื่นที่ไม่มีนัยการเมืองแอบแฝงน่าจะเหมาะสมกว่า

เหรียญมีสองด้าน ทุกอย่างมีสองมุม อยู่ที่ว่าจะเลือกมองมุมไหน ที่สำคัญคือจุดประสงค์แท้จริงของการเทกระจาดแจกเงินงบประมาณมีเป้าหมายอย่างไร แน่นอนว่าการแจกเงินครั้งนี้คนจนได้ประโยชน์ เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้ประโยชน์

แต่หากมองมุมการเมืองก็น่าสนใจว่าคนเกือบ 16 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้จะตอบแทนกลับมาเป็นคะแนนเสียงให้พรรคที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลทหาร คสช. คุมทัพอยู่กี่คะแนน

เมื่อเทียบจากคะแนนเสียงการเลือกตั้งครั้งหลังสุดในปี 2554 ที่พรรคเพื่อไทยได้ 15,744,190 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ได้ 11,433,762 เสียง พรรคภูมิใจไทยได้ 1,281,577 เสียง คะแนนของคนเกือบ 16 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จากการแจกงบประมาณครั้งนี้จึงมีนัยทางการเมืองที่น่าสนใจยิ่ง


You must be logged in to post a comment Login