- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อย่าสัญญาปากเปล่า
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 23 พ.ย.2561)
การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ได้อำนาจมาตรา 44 ของหัวหน้า คสช. มาช่วยอำนวยความสะดวกและคุ้มครองการทำหน้าที่ กกต. ไม่ให้ผิดกฎหมายกำลังถูกจับตามองว่าจะดำเนินการอย่างเป็นธรรมหรือไม่ เมื่อมีข้อมูลหลุดออกมาแสดงให้เห็นถึงความไม่ปรกติในการแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดสมุทรปราการ และมีข่าวแพร่สะพัดว่าจะไม่ยึดตาม 3 รูปแบบที่เคยเปิดรับฟังความเห็น หากเป็นไปในทิศทางนี้การเลือกตั้งก็ส่อเค้าว่าอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นมาได้ หากไม่อยากให้วุ่นวาย กกต. ในฐานะที่เป็นกรรมการต้องแสดงออกถึงการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เป็นกลาง เป็นธรรมอย่างเด่นชัด ไม่ใช่เพียงให้คำยืนยันว่าจะเป็นกลาง เป็นธรรม ชั่วโมงนี้คนอยากเห็นการกระทำมากกว่าคำพูด
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังตรวจสอบการทำงานของ กกต.ชุดปัจจุบันอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพิ่งใช้อำนาจมาตรา 44 ช่วยยืดเวลาและอำนวยความสะดวกในการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายกำลังจับตามองว่าจะเป็นไปอย่างยุติธรรมหรือไม่ แบ่งเขตให้เอื้อต่อพรรคการเมืองใดหรือไม่
กรณีแรกที่นายสมชัยออกมาแฉและมีความน่าสนใจคือ การแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
“คิดได้ไงหนอ แบ่งเขตเลือกตั้งแบบนี้เรียกว่ามีพื้นที่ติดต่อถึงกัน…รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์เพื่อพวกเรา คำสั่ง คสช. ให้ กกต. แบ่งเขตได้ตามใจ เพื่อใคร?”
นี่คือข้อความที่นายสมชัยโพสต์ลงในเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมมีภาพแผนที่จังหวัดสมุทรปราการประกอบ แสดงให้เห็นถึงความพยายามแบ่งเขตเลือกตั้งให้พื้นที่ต่างอำเภอที่ไม่ได้มีอาณาเขตติดกันตามภูมิศาสตร์สามารถมีพื้นที่ติดกันได้เพื่อเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย ด้วยการซอยพื้นที่อำเภอที่กั้นอยู่ให้ 2 อำเภอที่เป็นเป้าหมายกลายเป็นพื้นที่ติดกันตามที่กฎหมายกำหนดได้
เรื่องนี้จะจริงเท็จอย่างไร กกต. ต้องมีคำอธิบาย ถ้าไม่จริงก็แล้วไป แต่ถ้าแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างที่นายสมชัยเปิดเผยก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าทำไมทำอย่างนั้น หรือทำอย่างนั้นเพื่ออะไร
นอกจากนี้นายสมชัยยังโพสต์ข้อความในหัวข้อ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อผม” โดยระบุว่า
“หากไม่ใช่ผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมคงทำหน้าที่กรรมการจัดการเลือกตั้งต่อไปอีก 3 ปี แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เซตซีโร่องค์กรอิสระตามใจชอบ ใครสั่งไม่ได้ก็ล้างทิ้ง ที่พอใจก็ให้อยู่ต่อ แม้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังให้อำนาจ คสช. มี ม.44 ที่เหนืออำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ชี้เป็นชี้ตายได้ในทุกเรื่อง และสั่งให้ผมพ้นจากตำแหน่ง เพราะพูดไม่เข้าหูและบาดใจเกินไป รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังจำกัดเส้นทางเดินชีวิตผม ไม่สามารถสมัครองค์กรอิสระใดๆได้อีก
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังทำให้ผมได้ศึกษาหาความรู้จนเห็นแง่มุมการเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองที่สร้างขึ้นมาอย่างแยบยล เห็นการเขียนกฎหมายที่ฉ้อฉล จนเขียนหนังสือได้เป็นเล่ม นำไปสอนหนังสือได้เป็นวัน ผมจึงเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์เพื่อผม
สุดสัปดาห์นี้ถ้าไม่มีอะไรพลาด ผมคงใช้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์เพื่อผมฉบับนี้เดินเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองสักพรรคตามคำเชิญชวนของเพื่อน โดยหวังว่าอนาคตข้างหน้าอาจช่วยแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ดีไซน์เพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ไม่ให้นักการเมืองหน้าไหนมาพูดหยามใจประชาชนว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”
ก่อนหน้านี้มีนักการเมืองจากหลายพรรคตั้งข้อสังเกตถึงการออกคำสั่งของหัวหน้า คสช. และการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ที่มีกระแสว่าจะมีการรื้อการแบ่งเขตใหม่ ไม่ใช้ 3 รูปแบบเดิมที่เปิดรับฟังความเห็นมาก่อนหน้านี้
เมื่อนายสมชัยออกมาเปิดเผยซ้ำจึงทำให้น่าติดตามว่าถึงที่สุดแล้วการแบ่งเขตเลือกตั้งจะมีหน้าตาอย่างไร เพราะ กกต. สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะผิดกฎหมาย เนื่องจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ให้ความคุ้มครองอยู่
ถ้าเริ่มต้นกันด้วยความไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม มีการเอารัดเอาเปรียบ การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจเป็นไปด้วยความวุ่นวาย ไม่เรียบร้อย
หากไม่อยากให้มีความวุ่นวาย กกต. ในฐานะที่เป็นกรรมการต้องแสดงออกถึงการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เป็นกลาง เป็นธรรมอย่างเด่นชัด ไม่ใช่เพียงให้คำยืนยันว่าจะเป็นกลาง เป็นธรรม เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
You must be logged in to post a comment Login