วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เตรียมความพร้อมเมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ / โดย ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย

On November 23, 2018

คอลัมน์ : พบหมอศิริราช

ผู้เขียน : ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 23-30 พฤศจิกายน 2561)

จากการประชุมวิชาการนานาชาติด้านการแพทย์และการสาธารณสุขประจำปี 2561 (SICMPH 2018) ที่ผ่านมานั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged society) เพื่อให้มีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จะต้องเตรียมความพร้อมและดูแลสุขภาพกันอย่างไร

ผลจากการที่ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเจริญก้าวหน้าอย่างมาก ทำให้ประชาชนไทยมีชีวิตยืนยาวขึ้น อายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยผู้ชายไทยเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 72 ปี และผู้หญิงเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 79 ปี ผลโดยรวมทำให้สัดส่วนของผู้สูงอายุไทยเพิ่มขึ้นเป็น 17.77% ในปีนี้ และประชากรกลุ่มนี้มีลักษณะเฉพาะคือ การมีปัญหาด้านสุขภาพและด้านสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สังคมไทยต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งหลักการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุประกอบด้วย 4 ด้านหลักๆ ได้แก่

ด้านที่หนึ่งคือด้านสุขภาพกาย ผู้สูงอายุมักมีโรคเรื้อรังหลายโรค ได้แก่ โรคที่เกิดจากกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อ เช่น โรคข้อเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อเท้า และโรคกระดูกพรุนที่นำไปสู่การเกิดภาวะกระดูกหักได้

กลุ่มโรคต่อไปคือกลุ่มโรคไม่ติดต่อ หรือที่เรียกว่า Non-communicable disease เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดผิดปรกติ ตลอดจนภาวะแทรกซ้อนที่จะส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองอุดตันหรือแตก และโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน กลุ่มที่สามคือ ภาวะขาดสารอาหาร

ด้านที่สองคือด้านจิตใจ ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ ภาวะซึมเศร้า ภาวะสมองเสื่อม ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน ซึ่งต้องคอยติดตามป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเหล่านี้

ด้านที่สามคือด้านสังคม ซึ่งประกอบไปด้วย เรื่องผู้ดูแล ถ้าจะให้ดีที่สุดน่าจะเป็นลูกหลานของท่านเอง เรื่องเศรษฐานะ และเรื่องสิ่งแวดล้อม ว่าเหมาะสมกับผู้สูงอายุเพียงใดในการดำเนินชีวิต เช่น ทางเดินควรมีราวจับ พื้นไม่ลื่นเพื่อป้องกันภาวะหกล้ม

ด้านสุดท้ายคือ การทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยตัวเองได้โดยที่ไม่เป็นภาระกับผู้อื่น เช่น การฟื้นฟูบำบัดร่างกายและจิตใจ การมีอุปกรณ์ต่างๆในการช่วยเหลือ เช่น ไม้เท้า รถเข็น คอกเดิน แว่นตา เครื่องช่วยฟัง ฟันเทียม เป็นต้น

ท่านทราบหรือไม่ว่าสิ่งที่ผู้สูงอายุทุกท่านต้องการมีอยู่ 2 อย่างง่ายๆคือ สุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการโดยที่ไม่เป็นภาระกับผู้อื่น และด้านจิตใจ ซึ่งครอบครัว สังคม ลูกหลานมักจะมองข้ามไป ในวัยนี้ท่านต้องการให้ลูกหลานและสมาชิกในบ้านมาใกล้ชิด มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน พูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเวลาเจ็บป่วยนั้นจะต่างจากผู้ป่วยทั่วไปคือ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในทางเสื่อมจะมีผลต่อทุกอวัยวะ ทำให้นำมาซึ่งอาการแสดงที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น อาจมีอาการหกล้ม อาการไม่เดิน อุจจาระปัสสาวะราด อาการพูดจาสับสน ถามซ้ำๆ เป็นต้น การมีหลายโรคในเวลาเดียวกัน รวมทั้งมีการใช้ยาที่มีจำนวนมาก นำมาซึ่งการเกิดผลไม่พึงประสงค์จากยาได้ง่าย

เบื้องต้นเรามาเริ่มจากดูแลผู้สูงอายุในบ้านกันก่อน โดยมีวิธีง่ายๆแบ่งออกเป็น 4 ประเด็น

ด้านสุขภาพ มีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ซึ่งตรงนี้ต้องหมั่นดูแลว่าท่านเป็นโรคเรื้อรังอยู่หรือไม่ ตรวจเช็กสุขภาพแล้วหรือยัง รับประทานยาสม่ำเสมอหรือไม่

การฟื้นฟูบำบัด ผู้สูงอายุเวลาเจ็บป่วยไม่ได้หายทันใด ต้องมีการฟื้นฟูบำบัดเป็นระยะ

ด้านสังคม ผู้ดูแลควรให้ความใกล้ชิด ตลอดจนการจัดสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เหมาะในการที่จะป้องกันการเกิดการบาดเจ็บ การหกล้ม จึงทำให้เราต้องสนใจให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นพิเศษ

สุดท้ายคือ การส่งเสริมสุขภาพป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่น ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุคือ การดูแลและเอาใจใส่จากลูกหลาน ทุกวันก่อนนอนท่านนึกก่อนว่าท่านได้คุยกับคุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยายแล้วหรือยัง และเมื่อตอนเย็นได้รับประทานอาหารร่วมกับท่านแล้วหรือยัง เพียงเท่านี้ก็สร้างความสุขให้กับท่านได้แล้ว

 


You must be logged in to post a comment Login