วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หายใจรดต้นคอ

On November 26, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 พ.ย.2561)

การตบเท้าเข้าพรรคพลังประชารัฐของบรรดาอดีต ส.ส.ระดับเกรดบีบวก เกรดเอลบ ทำให้พรรคพลังประชารัฐกลายเป็นม้ามืดในสนามเลือกตั้งขึ้นมาทันที เพราะโอกาสที่คนพวกนี้จะชนะเลือกตั้งไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ถึงจะแพ้ก็สามารถช่วยเก็บแต้มมาคิดคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่นอน ที่เคยมองกันว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ ไม่มีอะไรต้องลุ้น คงต้องปรับราคาต่อรองกันใหม่ เพราะชั่วโมงนี้แชมป์เก่าไม่อยู่ในฐานะที่เป็นต่ออีกแล้ว

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองทวีความคึกคักเป็นอย่างมากเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

เมื่อธงเลือกตั้งยังถูกปักเอาไว้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ทำให้นักการเมืองต้องเร่งยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้ทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดคือ 90 วันก่อนเลือกตั้ง

พรรคพลังประชารัฐที่ก่อนหน้านี้ทำท่าว่าจะดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน แต่นาทีนี้ดูเหมือนว่าจะละสายตาไม่ได้แล้ว

จากรายชื่อหัวหน้ากลุ่มก๊วนการเมืองและรายชื่อลูกค่ายที่หอบหิ้วกันมาเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นระดับเกรดบีบวกถึงเกรดเอลบ โอกาสที่คนพวกนี้จะชนะเลือกตั้งไม่ใช่ว่าจะไม่มี

อย่างไรก็ตาม แต่ถึงจะแพ้ก็สามารถช่วยเก็บแต้มมาคิดคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่นอน

เมื่อรวมกับพวกเกรดเอที่มีฐานเสียงเป็นปึกแผ่นมั่นคง เลือกตั้งเมื่อไรก็ได้เดินเข้าสภาไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองไหน ทำให้พรรคพลังประชารัฐมีราศีขึ้นมาอีกเป็นกอง

เมื่อดูจากไพร่พลที่เกณฑ์มารวมกัน เป้าหมายที่จะเข้าป้ายเป็นที่สองคงไม่ไกลเกินเอื้อม

ยิ่งในช่วงที่พรรคเพื่อไทยระส่ำ พรรคสาขาไม่โดดเด่น มีโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาเป็นที่สองแบบคะแนนไม่ทิ้งห่างพรรคอันดับหนึ่งมากนัก

เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว

ขณะที่สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยยิ่งนับวันดูเหมือนว่าจะแผ่วลงเรื่อยๆ จากที่เคยชนะแบบนอนมา ครั้งนี้ต้องบอกว่าไม่แน่ ไม่ง่าย และมีโอกาสที่จะเสียแชมป์สูง ซึ่งหลังผ่านวันที่ 26 พฤศจิกายนไปแล้วน่าจะทำให้พอมองเห็นภาพชัดเจนขึ้น

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ถือว่ายังอยู่ในระดับเสมอตัว

แม้จะมีอดีต ส.ส. และอดีตสมาชิกสภาท้องถิ่นลาออกไปบ้าง แต่ไม่ใช่ระดับดาราเอกของพรรค ถึงโอกาสที่จะเพิ่มจำนวน ส.ส. มีไม่มาก แต่ก็น่าจะรักษาจำนวนได้ในระดับเดิมหรือใกล้เคียงของเดิม อาจจะลดลงไปบ้างแต่คงไม่มาก

เมื่อการเมืองมีแนวโน้มความน่าจะเป็นไปในลักษณะนี้ สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจึงถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเท่ากับว่าจะมี 3 ขั้วการเมืองที่ชิงกันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ขั้วหนึ่งคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคพันธมิตร อีกขั้วหนึ่งคือพรรคพลังประชารัฐกับพรรคบริวาร ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จ้องสวมบทตาอยู่คอยคว้าพุงปลาหาก 2 ขั้วหักโค่นกันไม่ลงในสภา

ที่เคยมองกันว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ บางขั้วการเมืองจะชนะขาดไม่มีอะไรต้องลุ้น คงต้องปรับราคาต่อรองกันใหม่ เพราะชั่วโมงนี้แชมป์เก่าไม่อยู่ในฐานะที่เป็นต่ออีกแล้ว

เมื่อแผนแตกแบงก์พันทำท่าว่าจะไม่เวิร์ค ถ้ายังอยากรักษาแต้มต่อคงต้องหาจุดเปลี่ยนใหม่


You must be logged in to post a comment Login