- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
หายใจรดต้นคอ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 พ.ย.2561)
การตบเท้าเข้าพรรคพลังประชารัฐของบรรดาอดีต ส.ส.ระดับเกรดบีบวก เกรดเอลบ ทำให้พรรคพลังประชารัฐกลายเป็นม้ามืดในสนามเลือกตั้งขึ้นมาทันที เพราะโอกาสที่คนพวกนี้จะชนะเลือกตั้งไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ถึงจะแพ้ก็สามารถช่วยเก็บแต้มมาคิดคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่นอน ที่เคยมองกันว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ ไม่มีอะไรต้องลุ้น คงต้องปรับราคาต่อรองกันใหม่ เพราะชั่วโมงนี้แชมป์เก่าไม่อยู่ในฐานะที่เป็นต่ออีกแล้ว
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองทวีความคึกคักเป็นอย่างมากเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
เมื่อธงเลือกตั้งยังถูกปักเอาไว้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ทำให้นักการเมืองต้องเร่งยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้ทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดคือ 90 วันก่อนเลือกตั้ง
พรรคพลังประชารัฐที่ก่อนหน้านี้ทำท่าว่าจะดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน แต่นาทีนี้ดูเหมือนว่าจะละสายตาไม่ได้แล้ว
จากรายชื่อหัวหน้ากลุ่มก๊วนการเมืองและรายชื่อลูกค่ายที่หอบหิ้วกันมาเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นระดับเกรดบีบวกถึงเกรดเอลบ โอกาสที่คนพวกนี้จะชนะเลือกตั้งไม่ใช่ว่าจะไม่มี
อย่างไรก็ตาม แต่ถึงจะแพ้ก็สามารถช่วยเก็บแต้มมาคิดคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่นอน
เมื่อรวมกับพวกเกรดเอที่มีฐานเสียงเป็นปึกแผ่นมั่นคง เลือกตั้งเมื่อไรก็ได้เดินเข้าสภาไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองไหน ทำให้พรรคพลังประชารัฐมีราศีขึ้นมาอีกเป็นกอง
เมื่อดูจากไพร่พลที่เกณฑ์มารวมกัน เป้าหมายที่จะเข้าป้ายเป็นที่สองคงไม่ไกลเกินเอื้อม
ยิ่งในช่วงที่พรรคเพื่อไทยระส่ำ พรรคสาขาไม่โดดเด่น มีโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาเป็นที่สองแบบคะแนนไม่ทิ้งห่างพรรคอันดับหนึ่งมากนัก
เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
ขณะที่สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยยิ่งนับวันดูเหมือนว่าจะแผ่วลงเรื่อยๆ จากที่เคยชนะแบบนอนมา ครั้งนี้ต้องบอกว่าไม่แน่ ไม่ง่าย และมีโอกาสที่จะเสียแชมป์สูง ซึ่งหลังผ่านวันที่ 26 พฤศจิกายนไปแล้วน่าจะทำให้พอมองเห็นภาพชัดเจนขึ้น
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ถือว่ายังอยู่ในระดับเสมอตัว
แม้จะมีอดีต ส.ส. และอดีตสมาชิกสภาท้องถิ่นลาออกไปบ้าง แต่ไม่ใช่ระดับดาราเอกของพรรค ถึงโอกาสที่จะเพิ่มจำนวน ส.ส. มีไม่มาก แต่ก็น่าจะรักษาจำนวนได้ในระดับเดิมหรือใกล้เคียงของเดิม อาจจะลดลงไปบ้างแต่คงไม่มาก
เมื่อการเมืองมีแนวโน้มความน่าจะเป็นไปในลักษณะนี้ สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจึงถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเท่ากับว่าจะมี 3 ขั้วการเมืองที่ชิงกันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ขั้วหนึ่งคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคพันธมิตร อีกขั้วหนึ่งคือพรรคพลังประชารัฐกับพรรคบริวาร ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จ้องสวมบทตาอยู่คอยคว้าพุงปลาหาก 2 ขั้วหักโค่นกันไม่ลงในสภา
ที่เคยมองกันว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ บางขั้วการเมืองจะชนะขาดไม่มีอะไรต้องลุ้น คงต้องปรับราคาต่อรองกันใหม่ เพราะชั่วโมงนี้แชมป์เก่าไม่อยู่ในฐานะที่เป็นต่ออีกแล้ว
เมื่อแผนแตกแบงก์พันทำท่าว่าจะไม่เวิร์ค ถ้ายังอยากรักษาแต้มต่อคงต้องหาจุดเปลี่ยนใหม่
You must be logged in to post a comment Login