อาชีพดูแลคนแก่

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 พ.ย.2561)

ประเทศไทยมีคนสูงอายุหรือคนชรามากขึ้นเรื่อยๆ ข่าวบอกว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศสูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 จากฐานข้อมูลจำนวนประชากรของประเทศปี 2560 พบว่ามีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 67.6 ล้านคน เป็นชาย 33 ล้านคน หญิง 34.6 ล้านคน และมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 11.3 ล้านคน หรือ 16.7% ของจำนวนประชากรทั้งหมด วัยทำงานอายุ 15-59 ปี จำนวน 44.6 ล้านคน วัยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 11.6 ล้านคน ผู้สูงอายุยังคงทำงานอยู่ราว 3.9 ล้านคน เพื่อหารายได้เสริมและเลี้ยงครอบครัว เพราะผู้สูงอายุบางคนไม่มีคนดูแล

อาชีพดูแลคนสูงอายุกำลังมาแรงและเป็นอาชีพที่มีรายได้เป็นล่ำเป็นสัน ข่าวว่าได้ชั่วโมงละ 60 บาท ถ้าทำ 10 ชั่วโมงก็ 600 บาท ซึ่งมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ถือเป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ เพราะคนชรามีมากขึ้นเรื่อยๆ ใครอยากมีงานทำ ไม่ตกงานก็มาทำอาชีพดูแลคนแก่

สังคมไทยให้ความเอาใจใส่คนแก่ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย มีเรื่องเล่ากันว่าลูกหลานครอบครัวหนึ่งไม่ยอมดูแลแม่ที่แก่ชราแล้ว มีแต่คนดูแลมายาวนาน จนกระทั่งตายไปปรากฏว่าแม่ไม่ยกมรดกเป็น 100 ล้านบาทให้ลูกหลาน แต่ยกให้คนที่ดูแลแทน

นี่เป็นตัวอย่างลูกหลานที่อกตัญญู ไม่เอาใจใส่พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่สูงวัย ก็เลยน้อยใจ เจ็บใจลูกหลานที่ไม่ดูแล ลูกหลานจึงอดได้มรดกเพราะความอกตัญญู เลยเห็นโทษเห็นทุกข์ที่ทอดทิ้งไม่เอาใจใส่พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่แก่เฒ่า บางคนทอดทิ้งเพราะไม่มีสมบัติ ไม่มีมรดก

เพราะฉะนั้นอย่าทอดทิ้งไม่เอาใจใส่คนแก่คนเฒ่าที่เคยเลี้ยงดูเรามา ไม่ว่าจะมีสมบัติ มีมรดกหรือไม่ มีมากมีน้อยก็ต้องดูแลกันไปตามอัตภาพ ช่วยเหลือเจือจานเผื่อแผ่แบ่งปันอย่างเต็มที่ นี่แหละถึงจะเรียกว่ามีความกตัญญูรู้คุณผู้ที่เลี้ยงดูมา เรามีโอกาสเลี้ยงดูพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่แก่เฒ่าต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่รังเกียจคิดว่าเป็นภาระ ช่วยประคับประคองให้กินอิ่มนอนอุ่น คนแก่ก็พอใจดีใจแล้ว

ต่อไปคงจะมีสถาบันที่เปิดสอนการดูแลคนสูงวัย คนแก่เฒ่ามากขึ้น จะทำให้สังคมไทยน่าอยู่ แม้แต่คนต่างชาติที่สูงวัยก็จะเดินทางมาใช้ชีวิตในบั้นปลายที่ประเทศไทย เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่เผื่อแผ่แบ่งปันเอื้ออาทรกันและกัน อาชีพดูแลคนสูงอายุมีแต่รุ่ง ไม่มีร่วง

แม้แต่คนในวัยทำงานยังตกงานกันมาก ขนาดธนาคารใครจะนึกว่าจะปิดสาขา ลดพนักงาน หากเราไม่ปรับตัวก็อยู่ไม่ได้ ลองมาทำอาชีพดูแลคนแก่อาจรุ่งกว่าทำงานธนาคารหรืออีกหลายอาชีพก็ได้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องวางแผนในอนาคต เห็นโทษเห็นภัยของการทำงาน การดำรงชีวิต

การมองอาชีพการทำงานในอนาคตที่มั่นคง คงเส้นคงวา งานที่เคยคิดว่ารุ่ง วันนี้ก็ร่วง ใครจะคิดว่างานดูแลคนสูงอายุจะมาแรงมาเร็ว รายได้ดีกว่าหลายอาชีพ แม้แต่งานธนาคารที่เคยมองว่าโก้หรู แต่วันนี้กลับปิดมากขึ้น มหาวิทยาลัยก็ปิดไปหลายแห่ง ถือเป็นสัจธรรมของคำว่า “อนิจจัง” ความไม่เที่ยงไม่แน่นอน ดังนั้น เราต้องรู้จักปรับตัวปรับใจกันจะได้อยู่ได้อย่างไม่เป็นทุกข์

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login