วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วาทกรรมทำลายตัวเอง!

On November 28, 2018

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 พ.ย.2561)

เว็บไซต์ the101.world สัมภาษณ์ “อิสระ ชูศรี” อาจารย์สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล นักภาษาศาสตร์การเมือง หลังจากเพลง “ประเทศกูมี” มียอดวิวเกิน 40 ล้านภายใน 1 เดือน ทำให้เห็นการใช้ “hate speech” เพื่อเป้าหมายทางการเมืองและทำลายฝ่ายตรงข้าม

“hate speech” แง่หนึ่งคือการพูดที่สะท้อนความเกลียดชังในตัวผู้พูด อีกแง่คือการพูดเพื่อให้คนที่เราพูดถึงกลายเป็นเป้าหมายของการเกลียดชัง ทำให้เขาด้อยความเป็นมนุษย์ลง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการเมืองขณะนี้ที่ฝ่ายหนึ่งประกาศสนับสนุน “ระบอบประชาธิปไตย” อีกฝ่ายสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ “ระบอบ คสช.” ที่ถือเป็นฝ่ายอำนาจนิยมหรือเผด็จการ

วาทกรรมที่ผู้มีอำนาจชอบใช้ เช่น “แผ่นดิน ประเทศชาติ ประเทศไทย” เหมือนสิ่งที่ห่อหุ้มคนทั้งหมดไว้ข้างใน แต่ตัวมันเองไม่ได้มีชีวิต เป็นการคลุมไว้ไม่ให้เห็นความแตกต่างภายใน “กลุ่ม Rap Against Dictatorship” ทำเพลง “ประเทศกูมี” พูดว่า “ประเทศคือประชาชน ชาติคือประชาชน” เพราะประชาชนอยู่ในประเทศ ฉะนั้นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดคือ “ประชาชนทุกคน” ที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศ

ขณะที่เพลง “ประเทศกูมี” มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดตรงไปตรงมา ทำให้เป็นเพลงฮิตในชั่วข้ามคืน ตรงข้ามกับเพลงที่ คสช. กรอกหูมากว่า 4 ปี มีประชาชนกี่คนที่จำได้และเปิดฟัง โดยเฉพาะท่อนฮุคที่ว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” กลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาทิ่มแทง คสช. เสียเอง จึงไม่แปลกที่เพลงนี้จะถูกปิดไปแบบเงียบๆ เพราะคำพูดไม่มีความหมายและไม่มีพลังเหลือแล้ว และยังสะท้อนคำพูดที่ไม่ตรงกับความจริง

วาทกรรมบิดเบือนประเด็นหรือกลบเกลื่อนความเป็นจริง เหมือนวาทกรรม “ความเป็นไทย” และ “คนดี” ยิ่งใช้บ่อยพลังก็ยิ่งลดลง และทำลายตัวเอง!


You must be logged in to post a comment Login