- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 9 hours ago
- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 1 day ago
- ขอให้คนไทยมีสติPosted 2 days ago
- ธรรมะใช้ได้ทุกวงการPosted 3 days ago
- ช่วยขจัดเหตุความชั่วร้ายPosted 4 days ago
- ใครเป็นนายกฯตัวจริงPosted 1 week ago
- ชอบผู้นำสไตล์ไหนPosted 1 week ago
- เมื่อความเจ็บป่วยมาเยือนPosted 1 week ago
- ไต่บันไดทีละขั้นดีกว่าPosted 1 week ago
- เกิดเป็นคนต้องสู้Posted 2 weeks ago
ร่วมกันสร้างสวนธรรม
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 29 พ.ย.2561)
กลับมาดูกระแสต่อต้าน “เจ้าสัว” อีกครั้ง เพราะเศรษฐกิจที่รัฐบาลบอกว่ากำลังดีขึ้น เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพี ประกาศจะเปิดขายอาหารตามสั่ง 24 ชั่วโมง ทำให้มีคนออกมาต่อต้านมากมาย มีกำนันคนหนึ่งประกาศว่าจะไม่ให้มาตั้งในเขตตำบลของตนอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้คนยากคนจนไม่มีที่ทำมาหากิน
อาตมานึกดูแล้วก็เห็นว่ามีส่วนจริง แต่จะบอกว่านายทุนเลวทั้งหมด เจ้าสัวแย่ทั้งหมดก็คงไม่ได้ เพราะโลกเรายังไงก็มีทั้งเศรษฐี คนจน แต่จะเป็นทุนสามานย์หรือนายทุนสามารถก็อยู่ที่การกระทำ ถ้าเป็นนายทุนสามารถก็ต้องสร้างงานสร้างอาชีพและเอื้อเฟื้อเกื้อกูลคนยากคนจนด้วย
ส่วนนายทุนสามานย์คือนายทุนหน้าเลือดขูดรีดตักตวงทรัพย์ ไม่ใช่พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่รวยแล้วเลี้ยงคน ช่วยให้คนที่มาอาศัยบารมีมีกินมีใช้ตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า กินคนเดียวอยู่ไม่เป็นสุข กินรวบทุกอย่างจนไม่เหลือให้คนอื่นมีที่ยืน อย่างนี้เป็นนายทุนหน้าเลือด
เจ้าสัวธนินท์หรือเจ้าสัวเบียร์ช้างก็ใช้ทุนไปจับงานใหญ่อย่างที่กำลังประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อสุวรรณภูมิ สัตหีบ ดอนเมืองอะไรทำนองนี้ งานเล็กๆไม่ควรแย่งคนยากคนจน อย่างที่มีคำพูดว่า “เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ” อย่างนี้ก็อยู่ร่วมกันได้ อยู่กันอย่างมีความสุข บ้านเมืองก็จะมีความเจริญ เศรษฐกิจดี เจ้าสัวทั้งหลายก็ดีไปด้วย ไม่ใช่คิดจะกินรวบทำทุกอย่างโดยไม่ใส่ใจคนยากคนจนจนไม่มีที่ยืน เดี๋ยวคนจนก็จะลุกขึ้นมาต่อต้านและโค่นล้ม
ร้านสะดวกซื้อที่มีแทบทุกหนทุกแห่งก็จะวุ่นวาย เพราะประชาชนไม่ยอมให้เอารัดเอาเปรียบ เจ้าสัวก็จะเดือดร้อน เรื่องการแบ่งปันเอื้ออาทรจึงต้องมีมนุษยธรรม มีศีลธรรม มีจิตใจที่เมตตา อย่างที่มีข่าวว่าเจ้าสัวไปช่วยท่าน ว.วชิรเมธีเป็นสิบๆล้าน อาตมาก็ฝากบอกผ่านบทความนี้ว่าขอให้ช่วยคนยากจนด้วย
สำหรับบั้นปลายชีวิตอาตมาจะไม่ไปแย่งธุรกิจอะไรกับใคร อยากจะทำประโยชน์ชิ้นสุดท้ายก่อนตายคือ โครงการสวนแปลงใหญ่ นาแปลงใหญ่ พลิก “สวนนนท์” ให้เป็น “สวนธรรม” เอาที่ดินจมน้ำข้างวัดสวนแก้วที่เขาปล่อยให้แช่น้ำมา 20 กว่าปีมาแปลงเป็นทุน ทำให้เกิดประโยชน์แก่แผ่นดิน ให้ชาวบ้านได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ แม้คนแถวเมืองนนท์จำนวนไม่น้อยมีฐานะร่ำรวย แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยที่ดินให้จมน้ำโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ
รัฐบาลประกาศจะเก็บภาษีที่ดินที่ปล่อยรกร้างว่างเปล่าอย่างจริงจัง ก็หวังว่าที่ดินจมน้ำเมืองนนท์จะนำมาสร้างประโยชน์ โดยเฉพาะการเกษตร อาตมาอยากให้มองญี่ปุ่นที่เขาทำให้เกษตรกรเป็นอาชีพที่ร่ำรวยและอยู่ได้ เพราะมีวิธีการบริหารจัดการ ช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ ทำให้ที่ดินนำมาใช้ประโยชน์ได้
เมืองนนท์ก็น่าจะทำได้ ก็ขอฝากคนเมืองนนท์ที่อ่านคอลัมน์นี้ลองมารวมตัวกัน มาลงขันกันนำที่ดินที่จมน้ำรกร้างว่างเปล่าแค่ 50 ไร่ มาปลูกพืช ปลูกผัก เลี้ยงปลา ทำประโยชน์ต่างๆเท่าที่จะทำได้ มีบ่อน้ำไร่ 2 ไร่ไว้ตรงกลาง น้ำเค็มก็ขึ้นมาไม่ถึง น้ำเน่าก็เข้ามาไม่ได้ น้ำก็สามารถนำมาใช้ทำการเกษตรได้ เพราะถ้าจะใช้แต่น้ำประปาก็ไม่ไหว
เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากให้ใครก็ตามที่ได้อ่าน ลองคิด ลองนึก ลองใคร่ครวญว่าจะมาร่วมหุ้นร่วมลงทุนอย่างไร ยิ่งเป็นเจ้าของที่ดินมาร่วมก็ยิ่งดี หรือจะขายก็ให้ผ่อนส่งได้ ถ้าเจ้าสัวคนใดได้ยินข่าวนี้จะให้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยถูกหน่อยก็ยิ่งดี อาตมานำที่ดินมาพัฒนาแล้วกว่า 3,000 ไร่ ทำให้ผู้คนได้ประกอบอาชีพต่างๆมากมาย ค่าแรงคนทำงานที่วัดก็ขึ้นให้ 20-50 บาท มากกว่ารัฐบาลด้วยซ้ำ
ก็ขอฝากบอกบุญ เราสร้างโบสถ์สร้างวิหารเจดีย์มาเยอะแล้ว เปลี่ยนมาสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนมีงานทำดีกว่า ดีกว่าให้เขาไปทำสิ่งไม่ดีไม่งาม
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login