- อย่าไปอินPosted 19 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ดูแลคนทุกวัยในครอบครัวให้ห่างไกลเบาหวาน
คอลัมน์ : โลกสุขภาพ
ผู้เขียน : พญ.รุ่งทิพย์ ด่านศิริกุล โรงพยาบาลกรุงเทพ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน- 7 ธันวาคม 2561)
โรคเบาหวานไม่เพียงส่งผลกับคุณภาพชีวิต แต่ยังอาจรุนแรงมากขึ้นหากไม่ได้รับการดูแลที่ดี เพราะฉะนั้นการป้องกันก่อนเกิดเบาหวานคือสิ่งสำคัญ การหันมาใส่ใจคนในครอบครัวจะช่วยให้ห่างไกลโรค หากทุกคนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และดูแลใส่ใจกันอย่างถูกวิธี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปพร้อมๆกัน การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ย่อมช่วยให้ทุกคนห่างไกลจากโรคเบาหวานได้
สมาชิกในครอบครัวนั้นมีหลากหลายวัย ดังนั้น ในแต่ละช่วงวัยการดูแลให้ห่างไกลเบาหวานจึงมีความแตกต่างกัน เพราะการรับรู้และพฤติกรรมการใช้ชีวิตมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 วัยดังนี้
1.วัยเด็กถึงเด็กประถมฯ พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ระวังน้ำตาล แป้ง และไขมัน เน้นให้ลูกดื่มน้ำเปล่าและนมรสจืดแทนน้ำหวานและน้ำอัดลม สอนให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือพ่อแม่ออกกำลังกายกับลูกหลังเลิกเรียน ในเด็กที่อายุมากกว่า 10 ปีและมีภาวะอ้วน ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลและวินิจฉัยโรคเบาหวาน
2.วัยรุ่น ในวัยนี้ควรปลูกฝังพฤติกรรมการรับประทาน เน้นโปรตีน ผัก และผลไม้ ลดแป้ง น้ำตาล และไขมัน และระวังน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ เน้นการออกกำลังกายเป็นประจำ พ่อแม่ควรสนับสนุนทางด้านกีฬาที่ลูกสนใจ แต่หากลูกติดเกม ติดโซเชียล ชอบนอนดูแต่ทีวี ต้องแนะนำให้ลูกทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมและใช้เวลาให้เหมาะสม
3.วัยทำงาน ควรมีการควบคุมเรื่องการรับประทานอาหารและน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ระวังปริมาณแป้งและน้ำตาลในแต่ละวัน ถึงแม้จะนานแค่ไหนอย่าละเลยการออกกำลังกาย ควรทำให้ได้สัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ตรวจสุขภาพเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี หากอยากมีบุตรต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เพราะผู้หญิงมีโอกาสเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ในผู้หญิงที่เคยมีบุตรแล้วและหลังคลอดเป็นเบาหวานอาจมีโอกาสเป็นเบาหวานในอนาคตได้ ซึ่งต้องดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังมากกว่าผู้หญิงทั่วไป นอกจากนี้ถ้ามีกรรมพันธุ์คนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวานก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้น 50% เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานจะเพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากความเสื่อมของร่างกายตามวัย
4.วัยสูงอายุ ระวังการรับประทานแป้งและน้ำตาล ควบคุมปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันอย่างเคร่งครัด เน้นการรับประทานผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง เพราะจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เน้นกีฬาที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เช่น ยกเวท โยคะ เป็นต้น ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี หรือหากป่วยเป็นเบาหวานควรต้องดูแลตนเองและกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
เทคนิคง่ายๆเพื่อป้องกันเบาหวานคือ บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมต่อวัน เลือกรับประทานผลไม้น้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง มะละกอ ส้ม มะม่วงดิบ ส้มโอ แอปเปิ้ลเขียว เป็นต้น ลดหรืองดชา กาแฟ น้ำอัดลม ขนมหวาน รับประทานได้สัปดาห์ละครั้ง เลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสี กากใยสูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น อ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อพิจารณาปริมาณน้ำตาลที่แน่นอนก่อนซื้อมารับประทาน การแปรงฟันหรือบ้วนปากทันทีหลังอาหารช่วยลดความอยากของหวานหลังอาหารได้ สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำคือ การออกกำลังกายให้เป็นนิสัยในทุกช่วงวัย และหมั่นสังเกตความผิดปรกติของร่างกายและตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำ
สำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยเบาหวาน ทุกคนในครอบครัวควรให้กำลังใจและคอยดูแลอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างระมัดระวัง ลดน้ำตาล ลดแป้ง ควรห้ามใจไม่ให้รับประทานให้ได้เพื่อการมีสุขภาพที่ดี และสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่ยังไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ควรดูแลกันและเป็นทีมเดียวกัน โดยระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร รวมถึงปริมาณน้ำตาลในอาหาร และชวนกันไปออกกำลังกาย ที่สำคัญควรตรวจเช็กเบาหวานเมื่อถึงวัยที่เหมาะสมหรือตามคำแนะนำของแพทย์
You must be logged in to post a comment Login