- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
“กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้”@ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส
เมื่อวันที่ 26-29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดโครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการ Famtrip เพื่อประชาสัมพันธ์อาหาร ด้วยการนำบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านอาหารหรือการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนประเภทโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นิตยสารท่องเที่ยว นิตยสารท่องเที่ยวออนไลน์ นิตยสารอาหาร นิตยสารอาหารออนไลน์, ผู้ดูแลเพจ Facebook ด้านอาหารหรือการท่องเที่ยว ร่วมโครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในกิจกรรม กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้ ชวนชิมร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ตามลำดับ พร้อมทั้งสัมผัสความงามของสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดอีกด้วย
วันแรกของกิจกรรม กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้ ผู้ร่วมกิจกรรม ได้เยี่ยมชม “ชายหาดบ้านทอน” ชายหาดสวยแห่งเมืองนราธิวาส และเป็นแหล่งผลิตเรือกอและเพียงแห่งเดียวของจังหวัดนราธิวาส หลังจากชม ศูนย์ทําเรือกอแระเสร็จ ก็ต่อด้วยรับประทานอารกลางวันที่ “สวนอาหารริมน้า” ติดกับแม่น้ำบางนรา หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ไปเที่ยว “หาดนราทัศน์” ชายหาดที่มีความสวยงาม ดูวิถีชาวประมงที่ “สะพานปลา” และการทํา “กื๊อโป๊ะ” ข้าวเกรียบปลา ต่อด้วย “เกาะยาว สะพานคอย 100 ปี” เป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำตกกใบไปยัง ” เกาะยาว ” สะพานนี้มีความยาว 345 เมตร ช่วงเย็นแวะรับประทานอาหารที่ “ร้านยูงทอง” ร้านดังของอําเภอตากใบ กับเมนูยํามะม่วงเบา เป็นยําซึ่งหอมกลิ่นกุ้งแห้งโขลก ปลาฉิ่งฉ้าง กรอบ
วันต่อมา ผู้ร่วมกิจกรรมเดินชมวิถีชีวิตของชาวนราธิวาส ที่ตลาดสดยามเช้า พร้อมชมชม “มัสยิด 300 ปี” สถาปัตกรรมอาคารไม้ตะเคียนทั้งหลัง ผสมผสานศิลปะไทยจีนและมลายูเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ สถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทางศาสนา เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดยะลา แวะชม “สะพานข้ามเขื่อนบางลาง” ต่อด้วย“บ่อน้า ร้อนเบตง” แช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ และชิม “เฉาก๊วยเบตง กม.4” เฉาก๊วยหรือวุ้นดําของอําเภอเบตง เป็นขนมขึ้นชื่อของอําเภอเบตง ถัดมาแวะ ชิมอาหารท้องถิ่นของเบตง ที่ “ร้านยินดีโภชนาเบตง” เสร็จจากรับประทานอาหาร เยี่ยมชม “ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก” อดีตตู้ไปรษณีย์ที่ ใหญ่ที่สุดของไทย (ซึ่งอดีตก็เคยเป็นที่สุดในโลก) พร้อมมุ่งหน้าต่อไปยัง “ด่านพรมแดน ไทย- มาเลย์” อําเภอเบตง เพื่อสักการะพระธาตุเจดีย์ที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่สุดของ ภาคใต้ ที่ “พระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ” ตกเย็นรับประทานอาหารท้องถิ่น ที่ “ร้านต้าเหยิน” หลังจากอาหารเย็นชม “อุโมงค์เบตง มงคลฤทธิ์” “พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง” เป็นจุดชมวิวชั้นดีที่เมื่อขึ้นไปชั้นบนสุดมองลงมาจะเห็นตัวเมืองเบตงได้อย่างชัดเจนพร้อมทาน “โรตี”
และวันที่สามผู้ร่วมกิจกรรมร่วมชมวิว “ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง“ ทะเลหมอกนี้เกิดจากความชุ่มชื้นหลังากที่แห้งแล้งมานาน พร้อมรับประทานาหารกล่องกลางหุบเขา หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็เดินทางสู่จังหวัดปัตตานี เพื่อท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ “ชุมชนบางปู” ชมอุโมงค์ต้นโกงกางที่ เลื่องชื่อ ชมวิถีชาวประมงพร้อมกับวัฒนธรรมของชาวอิสลาม และรับประทานอาหารกลางวันซีฟู้ดท้องถิ่นของชุมชน หลังจากเดินทางออกจากชุมชนบางปู แวะชม“มัสยิดกรือเซะ ” มัสยิดเก่าแก่ที่อยู่คู่จังหวัดมา ยาวนาน แวะไหว้ “ศาลเจ้าแม่ลิมกอเหนี่ยว” และชม “มัสยิดกลางจังหวัด ปัตตานี” หลังจากชมและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมก็ แวะทาน “สะเต๊ะศรีเมืองเจ้าเก่า” สะเต๊ะศรีเมืองเจ้าเก่าเมืองตานี เปิดขายมาเป็นเวลามากกว่า 70 ปี พร้อมไป สถานที่ท่องเที่ยว สกายวอล์คปัตตานีตั้งอยู่ใน “สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนา (สวนแม่-สวนลูก)”ตกเย็นรับประทานอาหารมื้อค่ำ ที่ “ร้านข้าวยำราชา” เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของ ปัตตานีที่โด่งดัง และเก่าแก่อีกร้านหนึ่งในจังหวัดปัตตานี และรับประทานโรตี ที่ ร้านฟาฏอนี โรงแรม ซี.เอส.
You must be logged in to post a comment Login