วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ยนตกรรมสปอร์ตในตำนาน เจเนอเรชั่นที่ 8 : เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ Los Angeles

On December 4, 2018

P18_0830

สตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี. ปรากฎการณ์ที่สะกดทุกประสาทสัมผัสเกิดขึ้นแล้วที่ Los Angeles: ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ยนตรกรรมสปอร์ตระดับตำนาน เดินทางผ่านกาลเวลาจนมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 8 ค่ำคืนแห่ง การเฉลิมฉลองความยิ่ง ใหญ่ของการเปิดตัวครั้งแรกในโลกสำหรับ 911 รุ่นล่าสุด (The new 911) จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศสุดอลังการของ มหกรรมยานยนต์ L.A. Auto Show นี่คือยนตรกรรมที่รับหน้าที่สืบสานความเกรียงไกร ผู้กำหนดบรรทัดฐานใหม่ในฐานะ ยนตรกรรมสปอร์ตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา งานออกแบบที่ถ่ายทอด DNA ของปอร์เช่ คือสิ่งที่ได้รับการยึดถือปฏิบัติ อย่างเหนียวแน่น ภาพลักษณ์ภายนอกที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารควบคุม การทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 10.9 นิ้ว ปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porsche 911) คือ ยานยนต์ ที่ท้าทายทุกข้อจำกัดของกาลเวลา เปี่ยมล้นด้วยอัจฉริยภาพแห่งการบังคับควบคุมจากระบบช่วงล่างชั้นเลิศผสานการ ทำงานกับนวัตกรรมระบบช่วยเหลือการขับขี่ล้ำสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว มั่นใจทุกสถานการณ์ รักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ของยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องยนต์วางหลังสุดคลาสสิก รองรับทุกความต้องการและความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล

ขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบชาร์จ เจเนอเรชั่นล่าสุด พัฒนาขึ้นใหม่และให้พละกำลังมากกว่ารุ่นเดิม ที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) สำหรับรุ่น S สมรรถนะที่เหนือล้ำยิ่งขึ้น เกิดจากการปรับปรุงกระบวนการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับเปลี่ยน การวางตำแหน่งของระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบ charge air cooling ใหม่ พละกำลัง มหาศาลจะถูกส่งต่อ ไปยังระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ เสริมด้วยนวัตกรรม ระบบช่วยเหลือการขับขี่รุ่นล่าสุดมากมาย รวมทั้งโปรแกรมควบคุมการขับขี่ Porsche Wet เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งานบนเส้นทาง เปียกลื่นและระบบเพิ่ม ทัศนวิสัยยามค่ำคืนหรือ Night Vision Assist พร้อมกล้องตรวจจับวัตถุด้วยอุณหภูมิ thermal imaging cameraP18_0833 P18_0835 P18_0837

ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (Porsche 911 Carrera S) มาพร้อมด้วยพละกำลังกว่า 450 แรงม้า
เครื่องยนต์ 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จของ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (The new Porsche 911 Carrera S)* และ 911 คาร์เรร่า 4 เอส ใหม่ (The new Porsche Carrera 4S) ให้กำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ 911 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 4 วินาที: กล่าวคือในรุ่นตัวถังสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูขับเคลื่อนล้อหลังใช้เวลาเพียง 3.7 วินาที และสำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าที่ 3.6 วินาทีเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที และจะสามารถลดระยะเวลาลงได้อีก 0.2 วินาที เมื่อได้รับการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package ในส่วนของความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 308 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และ 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น 4 เอส (4S) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ตามมาตรฐาน NEDC) ของ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) อยู่ที่ 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 8.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ในส่วนของ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4S) ทำได้ที่ 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร

งานออกแบบที่เด่นชัดด้วยอัตลักษณ์ของยนตรกรรมแห่งตำนาน
งานออกแบบภายนอกใหม่ สมบูรณ์แบบด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นสมรรถนะชั้นเลิศของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) รหัสตัวถัง 992 เริ่มจากซุ้มล้อที่ได้รับการขยายความกว้างยิ่งขึ้น เพื่อรองรับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ที่คู่หน้า และ 21 นิ้ว ที่คู่หลัง มุมมองด้านหน้ารถถูกปรับให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับสายพันธุ์ปอร์เช่รุ่นอื่นๆ เส้นสายที่พริ้วไหววางตัวตาม แนวยาวจากหน้าจรดหลังกันชนหน้ากว้างขึ้น 45 มิลลิเมตร ให้ความต่อเนื่องกลมกลืนมาถึงมือเปิดประตูแบบ electrical pop-out handles ก่อเกิดพื้นผิวด้านข้างรถที่ไหลลื่นเรียบเนียน โค้งมนราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด สิ่งที่วางตัวระหว่างโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ คือฝากระโปรงที่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของงานออกแบบที่ถ่ายทอดมาจากปอร์เช่ 911 เจเนอเรชันแรก ตัวถังด้านท้ายขยายกว้าง เน้นย้ำถึงความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตยุคใหม่เฉกเช่นปอร์เช่ทุกรุ่นในปัจจุบัน เสริมความแข็งแกร่งดุดันด้วยชุดสปอยเลอร์หลังปรับระดับได้ สะกดทุกสายตาด้วยแถบไฟส่องสว่างคาดยาวทุกส่วน ประกอบของตัวถังภายนอกล้วนแล้วแต่ถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุอะลูมิเนียม

การตกแต่งภายในห้องโดยสารสมบูรณ์แบบด้วยบุคลิกที่เด่นชัด เป็นผลจากความปลอดโปร่งที่เกิดขึ้นด้วยแนวเส้นตรงของ แผงคอนโซลและแผงหน้าปัทม์ ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบได้รับอิทธิพลจากปอร์เช่ 911 (Porsche 911) รุ่นปี 1970 มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางอันเป็นสไตล์ดั้งเดิมของปอร์เช่ ประกบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้ง ฝั่งซ้ายและขวาบริเวณคอนโซลกลางเป็นตำแหน่งหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงของระบบ Porsche Communication Management ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว ใช้สำหรับควบคุมและสั่งการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ต้องยกประโยชน์ดังกล่าวให้สถาปัตยกรรมการออกแบบยุคใหม่ นอกจากนี้ชุดสวิทช์ที่วางตัวอยู่ด้านล่างของหน้าจอทั้ง 5 นั้น ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องการเข้าถึงฟังก์ชันหลักของตัวรถโดยตรง

ปลอดภัยและสะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่สุดล้ำ
นับเป็นครั้งแรกของโลกสำหรับการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Wet mode ในยนตรกรรมปอร์เช่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบดังกล่าวจะรับหน้าที่ตรวจจับปริมาณน้ำที่ขังอยู่บนพื้นผิวเส้นทาง ปรับแต่งระบบควบคุมอื่นๆ และส่งสัญญาณเตือน ไปยังผู้ขับขี่ เพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าให้แก่รถยนต์ทั้งคัน ตอบสนองต่อความปลอดภัยสูงสุดในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง เพียงกดปุ่มสั่งการทำงานหรือปรับตั้งผ่านชุดสวิทช์เลือกโปรแกรมการขับขี่บนพวงมาลัย (เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package) นอกจากนี้ ระบบ warning and brake assist ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นมาตรฐานเช่นเดียวกัน จะรับบทบาทในการตรวจสอบอัตราเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการเฉี่ยวชนจากวัตถุเคลื่อนไหวอื่นๆ และสั่งการเบรกฉุกเฉินล่วง หน้าในกรณีที่จำเป็น เติมเต็มความปลอดภัยด้วยระบบเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน Night Vision Assist พร้อมกล้องตรวจ จับวัตถุด้วยอุณหภูมิ thermal imaging camera อุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม ที่สามารถเลือกได้เป็น ครั้งแรกสำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกติดตั้งระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างแบบแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control includes automatic distance control ระบบหยุดและสตาร์ทการทำงานของเครื่องยนต์ stop-and-go ระบบ reversible occupant protection และนวัตกรรมล่าสุดระบบ autonomous Emergency Assist

 

ปอร์เช่ *911 คาร์เรร่า เอส (Porsche 911 Carrera S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 8.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 205 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4 S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 206 กรัมต่อกิโลเมตร

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและ อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล ที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้า การทดสอบนี้

สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร “Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch, die CO2-Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี


You must be logged in to post a comment Login