- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ห้าวเป้งได้กี่น้ำ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 7 ธ.ค. 61)
พรรคประชาธิปัตย์แสดงความห้าวเป้งทางการเมืองตามสโลแกนหัวหน้าพรรค “ไม่เกรงใจใคร” ด้วยการบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุมแม่น้ำ 5 สายและ กกต. โดยให้เหตุผลว่าหัวหน้า คสช. เป็นคนไม่เคารพกฎหมาย ไม่มีธรรมาภิบาล และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้ง นับเป็นก้าวแรกของการดำเนินการแบบไม่เกรงใจใคร แต่หลายคนสงสัยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยึดแนวทางนี้ได้นานเท่าไร เพราะแม้จะเป็นท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับหัวหน้า คสช. และพรรคการเมืองที่สนับสนุนหัวหน้า คสช. แต่โคตรเซียนการเมืองในพรรคพลังประชารัฐไม่วิตก เพราะเชื่อว่าเป็นการแสดงเพื่อเรียกเสียงเชียร์จากแม่ยกเท่านั้น หลังเลือกตั้งจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่นอน
การประชุมร่วมระหว่างแม่น้ำ 5 สาย นำโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (7 ธ.ค.) ที่มีข่าวมาตลอดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะมาเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง
เดิมทีคงตั้งใจจะให้เป็นงานนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งอย่างยิ่งใหญ่ ให้ได้ภาพว่า คสช. ทำตามสัญญา ไม่เบี้ยว ไม่ยื้อเลือกตั้ง เพื่อเก็บแต้มเข้ากระเป๋า แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นดังคาด เพราะบรรดาพรรคการเมืองใหญ่ๆปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
ถ้าเอ่ยชื่อพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคสามัญชน อาจพอเข้าใจได้ถึงเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมประชุม และอาจมองว่าเป็นเรื่องปรกติ
แต่เมื่อมีชื่อพรรคประชาธิปัตย์โผล่มาก็ทำให้หลายคนต้องเหลียวมามองว่าการประชุมนี้ไม่ชอบธรรมอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ที่มีภาพความเป็นเครือข่ายเดียวกันตั้งแต่ก่อนและหลังรัฐประหารจึงไม่เข้าร่วม
ถ้าฟังจากคำแถลงอย่างเป็นทางการของนายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จับใจความได้ว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมเพราะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคารพกฎหมาย แม้กระทั่งกฎหมายที่ คสช. เป็นผู้ออกเอง ด้วยการใช้อำนาจมาตรา 44 ในคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ซึ่งเป็นคำสั่งที่แก้ไขเพิ่มเติมการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองและการเปิดรับสมาชิกพรรค รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล ซึ่งปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์มีถึง 3 สถานะ และยังเชื่อได้ว่าจะเป็นหนึ่งในรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่ถูกเสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ จึงถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับการเลือกตั้ง
นายธนายังระบุเหตุผลอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งแสดงความคิดเห็น แสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นของกระบวนการเลือกตั้งก็มีปัญหาแล้ว หากเป็นเช่นนี้เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจไม่เป็นที่ยอมรับของคนทุกภาคส่วน
ประกอบกับที่ผ่านมาตลอดการยึดอำนาจของ คสช. เป็นเวลามากกว่า 4 ปี พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงท่าทีว่าเป็นเจ้าของการเลือกตั้งแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ให้การเคารพประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศและเจ้าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าผู้ที่จะไม่เข้าร่วมประชุมแสดงว่าเป็นผู้ที่ไม่เคารพกติกานั้น นายธนาตอบโต้ว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เคารพกติกาและกฎหมายที่ตัวเองเป็นผู้ออกเช่นกัน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ยังแสดงให้เห็นหลายอย่างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและจะทำให้การเลือกตั้งขาดความน่าเชื่อถือ
“กระบวนการนี้ควรเป็นกระบวนการที่รับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมือง การที่ไม่ให้พรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นจึงมองว่าหากต้องการเรียกไปเพียงแค่รับฟัง จะฟังที่ไหนก็ได้ ดังนั้น เมื่อเข้าร่วมประชุมแล้วไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมประชุม ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนและสะท้อนความคิดเห็นเรื่องการทำหน้าที่ของ คสช. มาโดยตลอด เชื่อว่ารัฐบาลและ คสช. ทราบดีว่าสิ่งใดเป็นปัญหาในการดำเนินการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เคารพกติกาและยอมรับการเลือกตั้ง แต่ คสช. ต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่ากระบวนการที่นำไปสู่การเลือกตั้งนั้นมีความชอบธรรม”
พรรคประชาธิปัตย์ซัดหมัดตรงใส่ พล.อ.ประยุทธ์ตามสโลแกนหัวหน้าพรรค “ไม่เกรงใจใคร” น่าสนใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรักษาความห้าวเป้งนี้ไปได้นานเท่าไร จะไม่เกรงใจไปได้ตลอด หรือไม่เกรงใจเฉพาะช่วงที่ต้องหาเสียงเลือกตั้ง
ทั้งนี้ หลายคนไม่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เกรงใจใครไปได้ตลอด โดยเฉพาะโคตรเซียนการเมืองอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ อ่านขาดว่าท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงออกมานั้นเป็นแค่ช่วงการเตรียมการหาเสียง ที่ประกาศว่าไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค หลังการเลือกตั้งท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนไป
ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ เซียนการเมืองเขาอ่านกันออก
You must be logged in to post a comment Login