วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แม่ม่ายดำ

On December 7, 2018

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 7-14 ธันวาคม 2561)

สาวใจยักษ์สังหารโหดสามีและลูกในไส้เพื่อเอาเงินประกัน เมื่อเงินหมดก็ใช้วิธีล่อลวงชายโสดให้ขนทรัพย์สินเงินทองมาสร้างหลักปักฐานด้วยกัน หลังจากได้ทรัพย์สินก็สังหารเหยื่อทิ้ง มีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 40 ราย

เช้ามืดวันที่ 28 เมษายน 1908 กลุ่มควันไฟลอยโชยเข้ามาในห้องนอนของโจ แมกซ์สัน คนงานไร่ ซึ่งมีห้องนอนอยู่ชั้นสองตรงกับห้องครัว ตอนแรกเขาคิดว่าเจ้าของไร่ลุกขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้ามืด แต่ดูเหมือนควันไฟจะหนาผิดปรกติ เขาจึงลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาดูก็พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ฝาบ้าน

เบลล์ กันเนสส์ หญิงวัย 48 ปีเจ้าของบ้าน และลูกๆอีก 3 คน นอนอยู่ในห้องอีกซีกด้านหนึ่งของบ้าน โจรีบวิ่งไปทุบประตูห้องพร้อมกับตะโกนร้องเตือน “ไฟไหม้ๆ” แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากภายในห้อง

โจวิ่งลงมาที่ชั้นล่างคว้าขวานก่อนจะวิ่งกลับขึ้นไปชั้นบนใช้ขวานจามประตู แต่ก็ไม่สามารถพังประตูห้องนอนได้ เปลวเพลิงโหมใกล้เข้ามาทุกที เขาจึงจำเป็นต้องวิ่งหนีออกมาจากตัวบ้านเพื่อเอาชีวิตรอด ตำรวจเดินทางมาถึงหลังจากเพลิงสงบลง พบว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ร่างของเด็ก 3 คนและหญิงไร้ศีรษะถูกพบดำเป็นตอตะโกอยู่ในห้องใต้ดิน

ชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเคราะห์ร้ายของหญิงเจ้าของบ้าน ก่อนหน้าจะมาทำไร่เบลล์เคยสูญเสียบ้านและร้านขายของจากเหตุเพลิงไหม้ เธอสูญเสียสามีไป 2 คนจากโรคร้ายและอุบัติเหตุ ลูก 2 คนเสียชีวิตเพราะโรคลำไส้อักเสบ สุดท้ายเธอต้องมาตายในกองเพลิงพร้อมกับลูกๆที่เหลือ

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

เบลล์ กันเนสส์ เดิมชื่อบรุนฮิลด์ พอลสเดตเตอร์ สเตรท เกิดเมื่อปี 1859 เป็นบุตรสาวของช่างก่อสร้างจนๆในประเทศนอร์เวย์ ปี 1881 เธอเดินทางมาอเมริกาเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าให้กับชีวิต และเปลี่ยนชื่อเป็นเบลล์

ปี 1884 เบลล์แต่งงานกับแมดส์ โซเรนสัน เจ้าของร้านขายลูกกวาดในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ มีลูกด้วยกัน 4 คนคือ คาโรไลน์, เอ็กเซล, มิรเติล และลูซี่ แถมยังรับเจนนี่ โอเสน มาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคน

อยู่มาวันหนึ่งในปี 1895 จู่ๆก็เกิดเพลิงไหม้ร้านขายลูกกวาดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบลล์และแมดส์ได้เงินประกันอัคคีภัยมาก้อนหนึ่ง ต่อมาไม่นานนักคาโรไลน์และเอ็กเซลเสียชีวิตด้วยโรคลำไส้อักเสบ แม้แพทย์จะเคลือบแคลงสงสัยว่าเด็กอาจถูกวางยาเบื่อหนู แต่อาการของผู้ได้รับยาเบื่อหนูและอาการโรคลำไส้อักเสบใกล้เคียงกันมาก ขณะที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ในสมัยนั้นยังไม่สามารถแยกแยะได้ เป็นอีกครั้งที่บริษัทประกันภัยจ่ายเงินค่าสินไหมให้กับเบลล์

ต่อมาในปี 1900 ก็เกิดเพลิงไหม้บ้านพวกเขาอีก เบลล์และแมดส์ได้เงินประกันอัคคีภัยอีกก้อน และในปีเดียวกันนี้เองแมดส์เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในวันเดียวกับที่กรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับที่ 2 ได้รับการอนุมัติ

แพทย์ชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการได้รับสารพิษประเภทยาเบื่อหนู แต่เบลล์นำแพทย์ของเธอมาชันสูตรซ้ำ คราวนี้แพทย์ของเบลล์ระบุว่าเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว บริษัทประกันภัยยอมจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้ตามสัญญา

เริ่มต้นชีวิตใหม่

ปี 1901 เบลล์หอบเงินประกันมาซื้อที่ดิน 200 ไร่ ในเมืองลาปอร์เต รัฐอินดีแอนา หลังจากย้ายมาอยู่ไม่นานก็เกิดเพลิงไหม้โรงนา เบลล์ได้รับเงินประกันอัคคีภัยอีกก้อน ต่อมาไม่นานเบลล์ก็พบรักใหม่กับปีเตอร์ กันเนสส์ พ่อม่ายเจ้าของร้านขายเนื้อในเมืองลาปอร์เต

วันที่ 1 เมษายน 1902 ปีเตอร์และเบลล์แต่งงานกัน ปีเตอร์นำบุตรสาว 2 คนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ฟาร์มของเบลล์ หลังจากอยู่ใต้ชายคาเดียวกันได้เพียงสัปดาห์เดียว ลูกสาวคนเล็กของปีเตอร์ก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

ปีเตอร์รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เขาตัดสินใจส่งตัวลูกสาวคนโตไปอยู่บ้านญาติ ขณะที่ตัวเขาเองต้องเจอกับอุบัติเหตุสุดประหลาดในเดือนธันวาคม เมื่อเครื่องบดเนื้อตกจากชั้นวางในห้องครัวกระแทกลงบนศีรษะทำให้เสียชีวิตทันที เบลล์รับเงินสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยอีกครั้ง

เจนนี่ โอเสน ลูกบุญธรรม เล่าให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังว่า แม่ของเธอใช้เครื่องบดเนื้อทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิต 6 เดือนต่อมา เบลล์ให้กำเนิดฟิลิป บุตรชายที่เกิดกับปีเตอร์

ประกาศหาคู่

เบลล์ดูแลฟาร์มและลูกๆตามลำพังอยู่หลายปีก่อนจะตัดสินใจสละโสดอีกครั้งด้วยการลงประกาศหาคู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ในปี 1905 โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะไม่ตอบรับผู้ที่ให้ความสนใจจนกว่าจะได้พบตัวเป็นๆเท่านั้น เบลล์จะหว่านล้อมให้พวกเขาสร้างความมั่นใจให้กับเธอว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไปด้วยการหอบทรัพย์สินเงินทองมาเข้าบัญชีธนาคารในชื่อของเธอเพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของร่วมกิจการฟาร์มเนื้อที่ 200 ไร่

เพื่อนบ้านเห็นชายหนุ่มเดินทางมาหาเบลล์ไม่ซ้ำหน้าแทบจะทุกสัปดาห์ เบลล์บอกลูกๆว่าเป็นญาติมาเยี่ยมจากต่างเมือง แต่ขณะเดียวกันเธอพยายามกันไม่ให้ลูกๆมายุ่มย่ามกับ “ญาติ” เหล่านั้น ระหว่างที่รอการตัดสินใจเลือกคู่ครอง เบลล์ประกาศหาคนงานช่วยดูแลฟาร์ม

เดือนกรกฎาคม 1907 เบลล์จ้างเรย์ แลมเฟียร์ หนุ่มวัย 37 ปี เป็นคนงานดูแลฟาร์ม ไม่นานนักทั้งคู่ก็กลายเป็นชู้รักกันลับๆ เรย์พยายามแสดงออกว่ารักจริงหวังแต่ง แต่เบลล์ไม่เล่นด้วย ให้ได้แค่เพียงเป็นคู่ซ้อมยามเหงา ขณะที่เธอสานความสัมพันธ์ทางจดหมายกว่า 80 ฉบับกับแอนดรูว์ เฮลกีเลี่ยน หนุ่มจากรัฐเซาท์ดาโคตา มานาน 16 เดือน

ดูเหมือนแอนดรูว์จะตรงสเปกมากที่สุด เนื่องจากเขามีเชื้อสายนอร์เวย์เหมือนกับเธอ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินทางมาหาเบลล์ในเดือนมกราคม 1908 เบลล์เตะส่งเรย์ออกจากบ้านให้ไปนอนในโรงนาแล้วยกห้องนอนของเรย์ให้กับแอนดรูว์ ไม่กี่วันต่อมาแอนดรูว์และเบลล์เดินทางไปธนาคาร นำเงิน 2,839 ดอลลาร์ของแอนดรูว์ฝากเข้าบัญชีเบลล์

กำจัดเสี้ยนหนาม

หลังจากนั้นเรย์ก็ถูกไล่ออก เบลล์จ้างโจ แมกซ์สัน มาแทนที่ เบลล์แจ้งความกับนายอำเภอว่าเรย์ชอบแอบมาด้อมๆมองๆรอบๆบ้านเสมอ ให้ตำรวจไปรวบตัวในข้อหาบุกรุก เรย์ถูกตำรวจจับแต่ก็ต้องปล่อยตัวเพราะไม่มีหลักฐาน ชาวบ้านก่นด่าเรย์ที่ตามรังควานแม่ม่ายผู้น่าสงสาร

เบลล์บอกกับทุกคนในเมืองว่าเรย์สร้างปัญหาให้เธอมาก เกรงว่าเขาจะทำเรื่องร้ายๆ วันที่ 27 เมษายน เบลล์เดินทางไปพบเมลวิน ลีลิเตอร์ ทนายประจำตัว เธอเป็นห่วงสวัสดิภาพของเธอและลูกๆ หวั่นใจว่าเรย์จะฆ่าและเผาบ้านเธอ ขอให้ทนายทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานด้วย

หลังจากพบทนายแล้วเบลล์ก็ไปซื้อเค้ก รถไฟเด็กเล่น และน้ำมัน 2 แกลลอน ค่ำวันนั้นเบลล์จัดหนักอาหารมื้อใหญ่ให้กับลูกๆก่อนจะมานั่งเล่นรถไฟของเล่นใหม่กันทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นบ้านของเธอถูกเพลิงไหม้ทั้งหลัง คร่าชีวิตเบลล์และลูกๆเสียชีวิตในกองเพลิง ตำรวจตามไปรวบตัวเรย์โดยทันที

ความลับใต้คอกหมู

ก่อนจะออกจากบ้านแอนดรูว์บอกกับแอสเลย์ พี่ชาย ว่าจะเดินทางไปต่างเมือง 1 สัปดาห์ แต่ไม่บอกว่าจะไปไหน หลังจากครบกำหนดแอนดรูว์ไม่กลับบ้าน แอสเลย์สงสัยในพฤติกรรมของน้องชายจึงเข้าไปค้นในห้องนอน พบจดหมายปึกใหญ่ส่งมาจากเบลล์ มีใจความสำคัญระบุว่าให้แอนดรูว์ขายสิ่งของมีค่าแล้วพกเงินสดมาหาเธอที่เมืองลาปอร์เต

แอสเลย์เขียนจดหมายถึงเบลล์ถามหาน้องชาย เบลล์ตอบว่าเธอมีนัดกับแอนดรูว์จริงแต่เขาไม่ได้มาตามนัด แอสเลย์จนปัญญาจะคาดคั้นเอาความจริง จนกระทั่งเขาอ่านหนังสือพิมพ์พบข่าวไฟไหม้ฟาร์มของเบลล์ และพบศพ 4 ศพในกองเพลิง

วันที่ 4 พฤษภาคม แอสเลย์เดินทางมาพบนายอำเภอเมืองลาปอร์เต เล่าเรื่องราวของน้องชายให้ฟังพร้อมขออนุญาตร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ แอสเลย์จับพลั่วขุดค้นสถานที่เกิดเหตุ 2 วันเต็มๆ โดยมีโจและเพื่อนบ้านมาช่วย แต่ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม ไม่พบแม้กระทั่งศีรษะของหญิงเคราะห์ร้าย

แอสเลย์ถอดใจ กล่าวร่ำลาโจและเพื่อนบ้าน ขณะที่กำลังเดินออกจากฟาร์มเขาเกิดสะกิดใจอะไรบางอย่างจึงเดินกลับมาอีกครั้ง ถามโจว่าเมื่อต้นปีเบลล์เคยสั่งให้ขุดหลุมที่ไหนบ้างไหม โจตอบว่าเคย แต่นำดินไปถมที่คอกหมูซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านราว 50 เมตร เบลล์บอกว่าดินมันยุบจึงสั่งให้โจเอาดินไปถมไม่ให้รั้วคอกล้ม

แอสเลย์และโจช่วยกันขุดดินบริเวณนั้น ลึกลงไปเพียงไม่กี่ฟุตพวกเขาพบถุงกระสอบ เมื่อเปิดออกดูก็พบร่างมนุษย์ถูกสับเป็นชิ้นๆยัดอยู่ในกระสอบ แม้เนื้อหนังจะเน่าเปื่อยไปบ้าง แต่โจก็จำได้ดีว่าร่างที่ถูกฆ่ายัดกระสอบคือแอนดรูว์

ทุ่งสังหาร

ตำรวจเดินทางกลับมาตรวจค้นอีกรอบ คราวนี้นำกำลังมาช่วยกันขุดดินบริเวณคอกหมู เพียงแค่วันแรกตำรวจพบชิ้นส่วนมนุษย์ประกอบกันได้ 5 ร่าง วันที่สองพบ 4 ร่าง วันที่สามพบอีก 2 ร่าง แต่ละร่างถูกสับออกเป็น 6 ส่วน บริเวณต้นคอ หัวไหล่ หัวเข่า กะโหลกส่วนใหญ่ยุบจากการถูกทุบด้วยของแข็งอย่างแรง และเหยื่อทุกคนรวมถึงลูกๆทั้ง 3 คนมีสารยาเบื่อหนูอยู่ในร่างกาย

รายชื่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายผุดขึ้น พวกเขาล้วนเป็นชายโสดที่ติดต่อกับเบลล์ตามประกาศหาคู่ พวกเขาขนทรัพย์สินเงินทองมาหวังจะร่วมหัวจมท้ายกับเศรษฐินีม่าย แต่กลับต้องสูญเสียทั้งเงินทองและชีวิต ตำรวจสันนิษฐานว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเบลล์สังหารเหยื่อไปมากราว 25-40 คน

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่พบศีรษะของหญิงหัวขาด จึงสรุปไม่ได้ว่าเป็นร่างของเบลล์ หนึ่งสัปดาห์หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป ฝูงชนราว 20,000 คนเดินทางมาชมการขุดหาศพในสถานที่เกิดเหตุ มีร้านขายขนม ข้าวโพดคั่ว ไอศกรีม ราวกับเป็นสวนสนุก

ตำรวจพบฟันปลอม 2 ซี่ในกองเถ้าถ่าน ทันตแพทย์ยืนยันว่าเป็นของเบลล์ แต่เธอสามารถถอดฟันปลอมทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุเพื่อสร้างหลักฐานก็ได้ เพื่อนบ้านให้ความเห็นว่าร่างหัวขาดที่พบนั้นตัวเล็กกว่าเบลล์ซึ่งสูง 180 ซม. น้ำหนักกว่า 110 กก. แล้วยังลือกันว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วันเบลล์ว่าจ้างแม่บ้านคนใหม่เพื่อนำมาตัดศีรษะออกไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร เมื่อไม่พบศีรษะตำรวจก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเบลล์เสียชีวิตแล้ว

เรย์รอดตัวจากข้อหาฆาตกรรม แต่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาวางเพลิง เพราะมีคนเห็นเขาที่ฟาร์มของเบลล์ในเช้าวันเกิดเหตุ ปีถัดมาเรย์เสียชีวิตในเรือนจำด้วยโรควัณโรค ก่อนเสียชีวิตเขาสารภาพบาปกับบาทหลวงว่าเห็นเบลล์สังหารแอนดรูว์เขาจึงขอเงินค่าปิดปาก แต่เบลล์ตอบโต้ด้วยการไล่ออกและใส่ร้ายว่าจะถูกเขาทำร้าย

ช่วงเวลาเดียวกันแอสเลย์ก็ตามจิกถามหาน้องชาย เบลล์เห็นจวนตัวอาจถูกเปิดโปงจึงวางแผนแกล้งตายโดยยอมสละแม้กระทั่งชีวิตลูกในไส้อย่างเลือดเย็นผิดมนุษย์มนา แต่นั่นเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเบลล์เสียชีวิตในวันเกิดเหตุหรือหนีรอดไปได้อย่างลอยนวล

1

1.เบลล์ กันเนสส์ ในวัยใส

2

2.เบลล์, ฟิลิป, มิรเติล และลูซี่

3

3.ฟาร์มของเบลล์

4

4.เรย์ แลมเฟียร์

5

5.ห้องใต้ดินบริเวณที่พบศพ

6

6.ศีรษะแอนดรูว์

7

7.แอนดรูว์ เฮลกีเลี่ยน

8

8.ชิ้นส่วนร่างแอนดรูว์

9

9.ตำรวจขุดค้นบริเวณคอกหมู

10

10.ฝูงชนแห่มาดูการขุดหาศพ


You must be logged in to post a comment Login