วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เคลียร์ประเด็นตัดแต้ม

On December 12, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 ธ.ค. 61)

หลัง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้และประกาศปลดล็อกทางการเมือง ทำให้ผู้มีอำนาจต้องเร่งเคลียร์ประเด็นที่อาจถูกใช้โจมตีตัดแต้มพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะ 2 ประเด็นร้อนเฉพาะหน้าอย่างเรื่อง 4 รัฐมนตรีไม่แสดงสปิริตลาออกตามเสียงเรียกร้อง และมีทีท่าว่าน่าจะอยู่กันไปยาวๆจนถึงมีรัฐบาลใหม่ โดยยกข้ออ้างไม่มีกฎหมายบังคับใช้ให้ต้องลาออก และไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติว่าต้องลาออก การอ้างประเพณีปฏิบัติทำให้คนที่คิดจะใช้เรื่องนี้โจมตีพูดได้ไม่ถนัดปาก เพราะสมัยตัวเองอยู่ในอำนาจก็ไม่เคยลาออกเช่นกัน อีกเรื่องที่เคลียร์ด้วยการโยนเผือกร้อนกลับไปให้ กกต. คือบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีโลโก้และชื่อพรรค นอกจากให้ กกต. ตัดสินใจแล้วยังได้ภาพไม่แทรกแซงองค์กรอิสระกลับคืนมาด้วย

ปลดล็อกเรียบร้อยพร้อมๆกับการมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)

ถ้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เขียนบทเฉพาะกาลยื้อการบังคับใช้ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ออกมาอีก 90 วัน ป่านนี้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งไปแล้ว และคงอยู่ในช่วงรอประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและการวิ่งประสานจัดตั้งรัฐบาล

แต่เมื่อมีผลบังคับใช้กันตอนนี้ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย คือจากนี้ไปการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นภายใน 150 วัน ส่วนที่วางกันไว้ว่าจะเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้าก็ยังไม่แน่นอน เพราะต้องรอประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมาก่อน

หลังประกาศปลดล็อกทางการเมือง จากนี้ไปรัฐบาลทหาร คสช. จะเจอกับโลกความเป็นจริงทางการเมือง การวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายและตัวบุคคลจะมีมากขึ้น จะมีการจับกลุ่มรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองมากขึ้น เพราะข้อห้ามมั่วสุมเกินกว่า 5 คนถูกยกเลิกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้จะยกเลิกประกาศ คำสั่งต่างๆแล้ว แต่ไม่มีผลต่อคดีความของผู้ที่ละเมิดประกาศ คำสั่งก่อนหน้านี้ ทุกคดียังเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการ

หลัง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ แสงไฟสาดส่องไปที่ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลทหาร คสช. ที่โดดสู่การเมืองด้วยการเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐว่าจะแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ซื้อเวลาด้วยการประกาศว่าจะลาออกเมื่อถึงเวลาเหมาะสม ซึ่งคาดกันว่าจะลาออกหลัง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้

แต่เมื่อถึงเวลากลับมีท่าทีอิดออด โดยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าจะยังเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่วางไว้ต่อไปให้ประสบความสำเร็จ

ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การลาออกจะทำเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และจะลาออกพร้อมๆกันทั้ง 4 รัฐมนตรี

ทำให้คาดกันว่าเวลาที่เหมาะสมถูกขยับออกไป รอให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมาก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงหลังปีใหม่

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวสวนทางออกมาว่าท้ายที่สุดแล้วทั้ง 4 รัฐมนตรีอาจไม่ลาออกจนกว่ารัฐบาลนี้จะหมดอายุขัยไปตามสภาพหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพราะเกรงว่าการลาออกจะมีผลกระทบไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะถ้าพรรคพลังประชารัฐนำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์มาใส่ไว้ในบัญชีชื่อที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีจะเกิดเสียงเรียกร้องให้แสดงสปิริตลาออกแบบเดียวกับ 4 รัฐมนตรี

ทั้งนี้ เหตุผลข้ออ้างที่จะนำมาใช้คือ ไม่มีกฎหมายข้อใดบังคับให้ต้องลาออกหากลงสู่การเลือกตั้ง แถมยังตั้งคำถามกับคนที่เรียกร้องได้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีคนไหนลาออกจากตำแหน่ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องลาออก เพราะไม่มีประเพณีปฏิบัติ

เรื่องไม่แสดงสปิริตลาออกอาจถูกใช้เป็นประเด็นโจมตีอยู่บ้าง แต่คนโจมตีก็คงพูดได้ไม่ถนัดปาก เพราะสมัยตัวเองอยู่ในอำนาจก็ไม่เคยลาออกจากตำแหน่งในช่วงที่มีการเลือกตั้ง กรณีนี้จึงไม่น่าส่งผลกระทบกับรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐมากนัก

ส่วนเรื่องที่ส่อว่าจะส่งผลกระทบมากอย่างข้อเสนอตัดโลโก้พรรคกับชื่อพรรคออกจากบัตรเลือกตั้งให้มีแต่หมายเลข ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักและถูกนำไปเชื่อมโยงกับความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง เอื้อประโยชน์ให้พรรคที่ดูด ส.ส. จากพรรคอื่นไปจำนวนมาก

กรณีนี้ดูเหมือนว่าจะมีน้ำหนักทำให้เสียแต้มได้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมาเคลียร์ว่าไม่ได้เป็นผู้เสนอเรื่องนี้ แค่แสดงความเห็นกับผู้ที่เสนอ และไม่เคยสั่งการหรือแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ กกต. จะตัดสินใจ

ทั้งนี้ เรื่องบัตรเลือกตั้งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ที่ กกต. จะเชิญพรรคการเมืองมาแสดงความเห็น ซึ่งก็คงไม่มีพรรคไหนยอมให้บัตรเลือกตั้งมีแต่เบอร์ ไม่มีชื่อพรรคและโลโก้พรรค

อย่างไรก็ตาม กกต. ยังมีตัวเลือกให้พรรคการเมืองเลือกคือ หากตัดชื่อพรรคและโลโก้ออกไปเพื่อให้พิมพ์บัตรเลือกตั้งได้ง่ายแลกกับการที่จะให้ผู้สมัคร ส.ส. ของแต่ละพรรคใช้เบอร์เดียวกันทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศเพื่อให้หาเสียงได้ง่ายจะยอมหรือไม่ แต่แนวทางนี้ก็ต้องร่วมกันคิดหาทางออกกรณีที่มีพรรคส่งผู้สมัครไม่ครบ 350 เขต ซึ่งจะทำให้บางเขตต้องเว้นวรรคหมายเลขพรรคที่ไม่ส่งผู้สมัคร อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือไม่

สรุปเรื่อง 4 รัฐมนตรีไม่แสดงสปิริตลาออกไม่กระทบกับพรรคพลังประชารัฐ เรื่องบัตรเลือกตั้งตัดชื่อกับโลโก้พรรคที่ส่อว่าจะกระทบก็ให้เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะไปตกลงกับพรรคการเมือง

นับว่าเคลียร์ได้ไว ตัดไฟแต่ต้นลม


You must be logged in to post a comment Login