ทีมเทนนิสกวาด 3 ทอง “พิทยา”ส่งท้ายทองวูซู ศึกกีฬาปัญญาชน19

On December 12, 2018

                    ทัพเทนนิสปัญญาชนไทยกวาด 3 ทอง ทีมชาย, ทีมหญิง และ คู่ผสม ในศึกกีฬาม.อาเซี่ยน ครั้งที่ 19 ที่เนปิดอว์ ยังเหลือมีลุ้นอีก 4 รายการเชื่อมั่นจะเอาให้ครบทั้ง 7 อีเว้นส์ ขณะที่วูซูยุทธลีลา วันสุดท้าย “เจ้าตี๋” พิทยา หยางรุ่งรวิน ยังร้อนแรงเก็บคนเดียวเพิ่มอีก 2 ทอง ส่งผลให้ทีมคว้ามาได้ทั้งหมด 4 ทอง 2 เงิน และ 1 ทองแดง

                     การแข่งขันมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ โดยมีทัพนักกีฬาปัญญาจาก 11 ชาติเข้าร่วม สำหรับไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจในวันนี้เริ่มจากเทนนิสประเภททีม รอบชิงชนะเลิศ ทีมชายไทย โคจรมาพบกับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย คู่แรก เดี่ยวมือสอง ชญานนท์ แก้วสุทอ อาศัยการเสิร์ฟที่แน่นอนกว่าเอาชนะ อาซรูล เอกซาน ไปได้ 6-0, 6-2 มาต่อด้วยเดี่ยวมือหนึ่ง ธนเพชร ฉันทะ ยังร้อนแรงไล่ต้อน ชีก อาเมียร์ อับดุกกาห์ หายห่วง 6-2, 6-3 ทำให้ทีมชายไทยชนะขาดไป 2-0 คู่ คว้าเหรียญทองไปครองตามคาด

                     ขณะที่ประเภททีมหญิง ไทย ต้องมาพบกับนักหวดลูกสักหลาดแดน “ลอดช่อง” สิงคโปร์ โดยคู่แรก เดี่ยวมือสองของไทย คือ ร่มเกล้า ยืนยาว ตีท้ายคอร์ตได้ดีชนะ ทริเซีย ตัน เยิ่น ผิง มา 6-1, 6-3 ก่อนจะปิดท้ายด้วยเดี่ยวมือหนึ่ง ยิ่งลักษณ์ จิตตโคตร์ โชว์ฟอร์มสดไล่ทุบ โจแอน โก๊ะ เหว่ย หลิง ขาดลอย 6-0, 6-0 ส่งผลให้ทีมสาวไทยชนะขาด 2-0 คู่ คว้าเหรียญทองได้อีกเหรียญ เช่นเดียวกับประเภทคู่ผสม ไทย ส่ง ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ จับคู่กับ ยิ่งลักษณ์ จิตตะโคตร์ ไล่หวดเอาชนะคู่ผสมจากสิงคโปร์ไป 2-0 เซต (6-3, 6-1) สรุปผลงานทีมเทนนิสไทยคว้ามาได้ 3 ทอง

                       ด้าน นายสุรศักดิ์ ทรัพย์เพิ่ม ผู้จัดการทีมเทนนิส ได้กล่าวว่า นักกีฬาทุกคนเล่นได้ดีตามมาตรฐานที่ฟิตซ้อมมา ต้องขอบคุณลอนเทนนิสสมาคมฯที่ช่วยดูแลและพัฒนาด้านต่างๆเป็นอย่างดี สำหรับ 3 เหรียญทองที่ได้มานั้น ในส่วนของทีมชายและทีมหญิงเราเป็นแชมป์เก่าอยู่แล้ว แต่ในส่วนของคู่ผสมที่ได้มา ถือว่า เกินคาดหมาย เพราะคู่แข่งสำคัญอย่าง อินโดนีเซีย ไม่ส่งทีมเข้าร่วม แต่เราก็จะประมาทหรือมองข้าม มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ไม่ได้ เนื่องจากมีนักกีฬาฝีมือดีร่วมอยู่หลายคน อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.)เรายังเหลือลุ้นเหรียญทองอีก 4 รายการ คือ ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, คู่ชาย และ คู่หญิง ส่วนตัวจะพยายามกวาดเหรียญทองมาให้ครบทั้งหมด 7 อีเว้นส์ที่ลงชิงชัยเลย เพื่อสร้างสถิติใหม่ที่ดีเอาไว้

                       มาต่อกันที่วูซูยุทธลีลา หนานกุ้น-หนานเตา (พลองใต้-ดาบใต้) วันสุดท้าย ประเภททีมชาย สองพี่น้องตระกูล “หยางรุ่งรวิน” ก็คือ “เจ้าตี๋” สุจินดา และ “เจ้าลี” พิทยา ที่ได้เหรียญทองแดงมาแล้วก่อนหน้านี้ ยังโชว์ลีลาความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยมทำคะแนนมาได้ 9.60 คะแนน เฉือนเอาชนะคู่แข่งเจ้าภาพ พม่า ที่ทำได้ 9.59 คะแนนไปอย่างหวุดหวิด คว้าเหรียญทองไปเป็นครั้งแรก

                       ส่วน วูซูยุทธลีลา ประเภทบุคคล “เจ้าลี” พิทยา ยังร้อนแรงโชว์มาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าเหรียญทองเหรียญที่สองให้กับตัวเองสมใจทำได้ 19.18 คะแนน เหรียญเงิน ตกเป็นของ ฮาริช โฮราตุส จากอินโดนีเซีย 19.02 คะแนน และ เหรียญทองแดง ชุน ซางเหยียง ของมาเลเซีย 18.45 คะแนน สรุปผลงานนักกีฬาวูซูทั้งประเภทต่อสู้ และ ยุทธลีลา คว้ามาได้ทั้งหมด 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง

                       หลังการแข่งขัน พิทยา เปิดเผยว่า ดีใจมากที่คว้ามาได้คนเดียวถึง 2 ทอง และ 1 ทองแดง ก่อนเดินทางมาแข่งขันตั้งใจว่า เหรียญใดเหรียญหนึ่งก็พอแล้ว เพราะมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนัก โดยเฉพาะประเภทหนานกุ้น-หนานเตาเราสองพี่น้องหวังสูงมาก ซึ่งวันนี้ตัวเองกับพี่ชายคือ สุจินดา ก็ทำทุกอย่างได้ดีเยี่ยม ต้องขอขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและผู้ใหญ่ของ กกทม.ทุกคนที่ให้การสนับสนุนส่งกีฬาวูซูมาแข่งขันเป็นครั้งแรก เพราะเรามีโอกาสสร้างผลงานความสำเร็จให้ จากนี้ไปเป้าหมายคงเป็นการเดินทางไปคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

                       ด้าน นายอธิพัฒน์ พวงทอง เฮดโค้ชวูซู ให้สัมภาษณ์ว่า จากทั้งหมด 10 รุ่นที่เราส่งนักกีฬามาแข่งขัน ตัวเองตั้งความหวังว่าจะมีเหรียญรางวัลกลับไปสัก 5 รุ่นก็พอใจแล้ว เพราะคู่แข่งสำคัญทั้ง พม่า, มาเลเซีย และ อินโดฯ มีฝีมือไม่ธรรมดา แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริงนักกีฬาทุกคนทุ่มเทและตั้งใจเต็มที่ จนผลงานออกมาอย่างที่เก็น ส่วนตัวถือว่า ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่วางไว้ เพราะ 7 เหรียญที่ได้มานั้น แยกเป็น 4 ทองจากต่อสู้-ยุทธลีลา 2 เงินจากต่อสู้ และ 1 ทองแดงจากยุทธลีลา นับว่า เราได้เหรียญไม่แพ้ชาติใดเลย จากนี้ไปทุกคนจะเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวไปลุยซีเกมส์ในปีหน้า