- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เปรตขอส่วนบุญ!
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 ธ.ค. 61)
“ทั่นผู้นำ” ดูเหมือนยังหงุดหงิดเรื่อง “บัตรทอง” หรือ “นโยบายรักษาทุกโรค 30 บาท” โดยพูดกับประชาชนที่บึงกาฬว่า นโยบายการรักษาพยาบาลฟรีต้องดีกว่าเดิม ไม่ว่าใครเป็นคนคิดขึ้นมาเรื่องการรักษาพยาบาล 30 บาท “ประชาชนชอบ แต่โรงพยาบาลขาดทุน”
“ทั่นผู้นำ” ยืนยันไม่มีการยกเลิก เพราะเป็นโครงการที่ทั่วโลกยอมรับ แต่เขาเป็นประเทศที่มีรายได้สูงกว่าเราไม่รู้กี่สิบเท่า ซึ่งต้องทำให้ดีขึ้น แต่คำพูดของ “ทั่นผู้นำ” ก็ยังทำให้รู้สึกไม่ดีนักกับ “บัตรทอง” ซึ่ง “ทั่นผู้นำ” เคยพูดก่อนหน้านี้ว่า การรักษาฟรีทำให้คนไม่ดูแลสุขภาพ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสอย่างต่อเนื่องว่าคนในกระทรวงสาธารณสุขและการแพทย์พยายามแก้กฎหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบาย “บัตรทอง” โดยอ้างมีปัญหางบประมาณและโรงพยาบาลขาดทุน
ทำให้เกิดกระแสต่อต้านและถามกลับ “ใครอยากป่วย?” แล้วยังกระทบไปถึง “สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ” ที่คุ้มครองถึงคนในครอบครัวว่าควรยกเลิกหรือไม่ เพราะทำให้ข้าราชการไม่สนใจดูแลสุขภาพเช่นกัน?
ยิ่งนำงบประมาณมาเปรียบเทียบระหว่าง “บัตรทอง” กับ “สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ” จะเห็นความแตกต่างชัดเจน โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 จากผู้ใช้ “บัตรทอง” ประมาณ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 134,269 ล้านบาท หรือต่อหัวประมาณ 2,800 บาท
ส่วน “สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัว” ประมาณ 6 ล้านคน ใช้งบประมาณถึง 70,000 ล้านบาท รวมถึงงบประมาณเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญข้าราชการ 700,000 คน ใช้งบประมาณ 223,762 ล้านบาท
“บัตรทอง” ได้รับการยกย่องจาก “องค์การอนามัยโลก” ว่าคือตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการบริหารจัดการทรัพยากรที่จำกัดทั้งงบประมาณและบุคลากรให้คนกว่า 60 ล้านคนได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีนโยบายทางการเมืองที่เข้มแข็ง และการมีส่วนร่วมของประชาชนให้ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของเพื่อเป็นหลักประกันว่านโยบายนี้จะยั่งยืน
แต่กลับมีกลุ่มที่ต่อต้าน “บัตรทอง” พยายาม “ยกเลิก” เมื่อ “ยกเลิก” ไม่ได้ก็พยายามแทรกแซงและลดสิทธิต่างๆใน “บัตรทอง” ทั้งที่ประชาชนเป็นผู้เสียภาษีที่นำไปเป็นเงินเดือนและสวัสดิการให้ข้าราชการ รวมถึงนำไปพัฒนาประเทศ
แต่คนจำนวนหนึ่งกลับมองประชาชนเหมือน “เปรตขอส่วนบุญ”!!??
You must be logged in to post a comment Login