วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ศรัทธาพัฒนาชีวิต

On December 19, 2018

 

คอลัมน์ สันติธรรม

ศรัทธาพัฒนาชีวิต

โดย บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้วันสุขวันที่ 21-28 ธนวาคม  2561)

กว่าจะเป็นโลกศิวิไลซ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทุกสังคมและทุกประเทศล้วนมีการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาที่เกิดมาจากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือความเชื่อทางศาสนา

เดิมทีผู้คนในอาณาจักรโรมันเคารพสักการะเทพเจ้าต่างๆมากมาย แต่หลังสมัยพระเยซูหลักความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวที่พระเยซูพร่ำสอนได้ถูกตีความใหม่จนกลายเป็นหลักศรัทธาในพระเจ้า 3 องค์ (ตรีเอกานุภาพ) และถูกนำไปเผยแพร่ในอาณาจักรไบแซนตินจนเป็นความเชื่อของชาวคริสเตียน

ขณะที่ชาวโรมันเลิกเคารพกราบไหว้รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆและหันมารับหลักความเชื่อในตรีเอกานุภาพนั้น ในแผ่นดินอาหรับชาวอาหรับเคารพกราบไหว้รูปเคารพมากมาย นักประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าเฉพาะรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺมีเจว็ดบูชาที่ผู้คนมาเคารพกราบไหว้จำนวน 360 ตัว

ในขณะที่มหาอาณาจักรไบแซนตินและอาณาจักรเปอร์เซียมีความเจริญมั่งคั่งเข้มแข็ง ผู้คนมีความกินดีอยู่ดี ชาวอาหรับในเวลานั้นส่วนใหญ่ยังไร้อารยธรรม คนรู้หนังสือมีน้อยมาก ผู้คนใช้ชีวิตเร่ร่อน เลี้ยงสัตว์ และทำการค้า ไม่สามารถทำการเกษตรได้เพราะแผ่นดินเป็นทะเลทราย

ด้วยความที่น้ำเป็นสิ่งหายากในทะเลทราย ชาวอาหรับจึงใช้น้ำอย่างประหยัด การซักเสื้อผ้ามีน้อยครั้งในแต่ละปี และเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง ทำให้ไม่มีเหงื่อเหนียวเหนอะตัว ชาวอาหรับจึงไม่มีความรู้สึกอยากอาบน้ำ และชาวอาหรับในเวลานั้นกินซากสัตว์ที่ตาย

ชาวยิวและชาวคริสเตียนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอาหรับต่างพยายามที่จะชักชวนให้ชาวอาหรับเลิกบูชาสักการะเจว็ดเหล่านี้ และหันมานับถือศาสนาของตนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ชาวอาหรับเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มประกาศอิสลาม หากใครศึกษาประวัติศาสตร์ทุกคนจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของชาวอาหรับมิได้เกิดจากการใช้กำลังอาวุธหรือกำลังมวลชน แต่เกิดจากความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก และความศรัทธานี้เกิดขึ้นจากคัมภีร์กุรอานล้วนๆ

Alhambra

นบีมุฮัมมัดเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ ไม่มีกองทัพ แต่หลังจากได้รับกุรอานจากพระเจ้า ท่านเพียงทำหน้าที่นำสิ่งที่พระเจ้าดลใจไปอ่านให้ชาวอาหรับฟัง แม้จะถูกต่อต้าน แต่ในที่สุดท่านก็สามารถทำให้ชาวอาหรับเลิกเคารพกราบไหว้เจว็ดบูชาและหันมาศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวเป็นผลสำเร็จในเวลา 23 ปี

เนื่องจากความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวกำหนดว่าความศรัทธาต้องถูกแสดงให้เห็นเป็นการปฏิบัติในรูปของการละหมาดประจำวัน 5 เวลา และการทิ้งละหมาดถือเป็นบาปใหญ่ ก่อนการละหมาดผู้ละหมาดต้องทำความสะอาดร่างกายบางส่วน ชาวอาหรับจึงต้องทำความสะอาดร่างกายบางส่วนทุกวัน จากที่ก่อนหน้านี้แทบจะไม่ได้ทำความสะอาดกันเลย

นอกจากนี้พระเจ้าได้มีบัญชาให้ผู้ศรัทธาโดยเฉพาะผู้ชายต้องไปละหมาดและฟังเทศนาธรรมทุกบ่ายวันศุกร์ นบีมุฮัมมัดได้กำชับว่าก่อนไปละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ทุกคนต้องอาบน้ำทั่วทั้งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่ ความศรัทธาจึงกำหนดให้ชาวอาหรับต้องอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

หลังจากความศรัทธาในพระเจ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการละหมาด คำสั่งจากพระเจ้าเรื่องความสะอาดขั้นต่อไปก็ติดตามมา นั่นคือหากผู้ศรัทธาคนใดมีอสุจิหลั่งออกมาโดยเจตนาหรือไม่เจตนา และผู้หญิงคนใดมีความสัมพันธ์ทางเพศหรือหมดประจำเดือนจนแน่ใจว่าตัวเองสะอาดปราศจากเลือดแล้ว ทุกคนต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายทั่วทั้งตัวตามวิธีการทางศาสนา หากไม่ทำเช่นนั้นจะถือว่าร่างกายไม่สะอาดและไม่สามารถละหมาดได้ หากฝ่าฝืนถือว่าเป็นบาป

ด้วยความจำเป็นทางศาสนาอันเกิดจากความศรัทธานี้เองที่ทำให้ชาวอาหรับต้องขุดบ่อขุดคลองเพื่อหาน้ำมาตอบสนองความต้องการ วิถีชีวิตของชาวอาหรับจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังมีศรัทธา

ในคัมภีร์กุรอานกล่าวถึงสวรรค์ว่ามีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ดังนั้น เมื่ออาณาจักรของชาวอาหรับขยายออกไปยังดินแดนอื่น เช่น ในสเปน หรือในซีเรีย น้ำจึงเป็นสิ่งแรกที่ชาวอาหรับพิจารณาก่อนลงมือสร้างวังหรือป้อมปราการ และในปราสาทหรือวังหรือป้อมปราการที่ชาวอาหรับสร้างมักจะมีน้ำพุ ตาน้ำ หรือแอ่งน้ำอยู่ข้างใน


You must be logged in to post a comment Login