- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ภาคประชาชน60องค์กร หนุนรมว.ยุติธรรม ออกกฎกระทรวงยกระดับบ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก
วันนี้(19 ธันวาคม) เวลา11.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ นักวิชาการอิสระ ซึ่งทำการศึกษาวิจัยศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วย นายอัครพงษ์ บุญมี อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน นักรณรงค์ขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อลดปัญหาทางสังคม และปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผ่านทางนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานหลักตามพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ออกกฎกระทรวงยกระดับให้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก ที่เป็นสถานบำบัดฟื้นฟู ซึ่งยังอยู่ในบริบทรัฐอุดหนุนตามสัดส่วนทางการเงิน โดยเครือข่ายฯได้มอบงานวิจัยล่าสุด เพื่อยืนยันถึงประสิทธิผลในการทำงานของศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วยรายชื่อ 60 องค์กรภาคประชาชนที่ร่วมสนับสนุน
นายอรุณฉัตร กล่าวว่า บ้านกาญฯ มีกระบวนการออกแบบค่อนข้างแตกต่างจากสถานพินิจแห่งอื่น สร้างผลลัพธ์เชิงประจักษ์ได้รับการยอมรับทั้งมิติการบริหารงาน และกระบวนการในการฟื้นฟู เยียวยา เด็กและเยาวชนผู้ก้าวพลาดให้กลายเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม สะท้อนจาก งานวิจัยประเมินผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนผู้เคยกระทำความผิด ที่ผ่านกระบวนการ “วิชาชีวิต” กรณีศึกษา: ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สามารถยืนยันได้ถึงผลลัพธ์ระยะยาวที่เกิดกับเยาวชน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ผ่านกระบวนการฯ ตั้งแต่6เดือน–7 ปี กว่าร้อยละ 84 มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทั้งต่อตัวเองและสังคม คือ สามารถควบคุมตนเองซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ที่บ้านกาญฯ อย่างสิ้นเชิง และข้อมูลจากสถิติพบว่า เด็กและเยาวชนที่ผ่านกระบวนการของบ้านกาญฯในช่วง5ปีหลัง (พ.ศ.2556-2560) มีอัตราการกระทำความผิดซ้ำต่ำกว่า ร้อยละ 5ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกรมพินิจฯ อยู่ที่ มากกว่าร้อยละ15
“ตั้งแต่มีพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ จนถึงปัจจุบัน นับรวมเวลากว่า 8 ปี การออกกฎหมายลูกเพื่อรองรับการดำเนินงาน ยังมีความล่าช้า ทำให้ปัจจุบัน สถานการณ์บริหารงานของ ศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก ยังดำเนินงานในรูปแบบโครงการนำร่อง ด้วยเหตุนี้เครือข่าย60 องค์กรภาคประชาชน และบุคคล ขอสนับสนุนให้ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานหลักตาม พ.ร.บ.ดำเนินการเพื่อออกกฎกระทรวง เพื่อมารองรับการดำเนินการของ ศูนย์ฝึกฯ บ้านกาญจนาภิเษกเป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก ซึ่งยังอยู่ในบริบทรัฐอุดหนุนตามสัดส่วนทางการเงิน และทางเลือกอื่นในอนาคต โดยมีเนื้อหาในกฎกระทรวงที่สามารถคงไว้ซึ่งจุดแข็ง ในการทำงานที่เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ของบ้านกาญฯที่ยังไม่มีการรองรับอย่างเป็นทางการซึ่งการเปิดช่องทางกฎหมายนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าด้านการบริหารงานของรัฐ ที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ได้เข้ามามีส่วนร่วม” นายอรุณฉัตร กล่าว
นายอัครพงษ์ บุญมี อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่าตนเองเป็นรุ่นที่5ที่ได้เคยเข้ามาใช้ชีวิตเรียนรู้ในบ้านกาญฯ สัมผัสได้ว่าระบบรูปแบบวิธีคิด แตกต่างจากสถานพินิจอื่นๆ คือบ้านกาญฯเข้าใจเด็ก ทำให้เด็กได้เห็นคุณค่าในตัวเอง มีอิสระทางความคิด จากที่เมื่อก่อนที่คิดอะไรสั้นๆ แต่เพราะบ้านกาญฯที่ทำให้มีวันนี้ มีมุมมองกว้างขึ้น รอบคอบขึ้น สอนให้เรานำผลพวงจากอดีตที่เคยพลาดพลังมาเป็นบทเรียนมองเห็นชีวิตและคุณค่าในตัวเอง เห็นถึงความรักจากพ่อแม่คนรอบข้าง และจะไม่กลับไปทำผิดซ้ำ นอกจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วยังไม่พอ ที่นี่สอนให้เราสนใจปัญหาสังคม ช่วยเหลือคนรอบข้างเมื่อมีโอกาส มิใช่แค่ไม่ทำตัวเองเป็นปัญหา เอาแค่ตัวเองรอด เราต้องมีส่วนร่วมกับสังคมด้วย ที่นี่ผ่านประสบการณ์ของบ้านกาญมากมากว่า15ปี น่าจะตกผลึกเพียงพอที่กระทรวงยุติธรรมจะตัดสินใจได้ในการออกกฎกระทรวง รองรับให้เกิดทางเลือกใหม่ๆ
“ที่บ้านกาญฯเราต้องผ่านการคิดวิเคราะห์หลายชั้น ทำกิจกรรมต่อเนื่อง แม้กระทั่งพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากก็มาเปลี่ยนแปลงความคิดมุมมองตัวเองที่นี่ ทั้งความสำเร็จและล้มเหลวสร้างการเรียนรู้ได้หมด ผมคิดว่าหัวใจที่สำคัญคือการศรัทธาในคุณค่าความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมกันของคน และเชื่อมั่นว่าคนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้ไม่มีใครอยากเกิดมาทำผิดเป็นคนเลว และเห็นด้วยอย่างยิ่งหากเกิดการปรับเปลี่ยน รับรองสถานะให้เป็นรูปแบบของเอกชน เพื่อให้เกิดการบริหารงานที่คล่องตัว ผลประโยชน์จะตกอยู่ที่เด็ก ซึ่งจะแตกต่างจากระบบเดิมที่เคยติดเงื่อนไข การทำงานมีขีดจำกัด ทั้งนี้ในฐานะเยาวชนที่เคยผ่านช่วงชีวิตที่บ้านกาญฯมาอยากชวนท่านรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนที่บ้านกาญฯเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ” นายอัครพงษ์ กล่าว
ขณะที่นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม และนายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า อยากให้เครือข่ายฯมั่นใจ ว่าจะดำเนินการตามกฎกระทรวง ตั้งกรรมการ ดูรายละเอียดของเนื้อหา และเรื่องนี้ได้มีการปรึกษาหารือกันก่อนแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถประกาศได้ประมาณสิ้นเดือน มกราคม2562 ขั้นตอนจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ร่วมไปกับระเบียบของกรมพินิจฯ
You must be logged in to post a comment Login