- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
โกงทุกเม็ด?
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 61)
“โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา” ระบุการเลือกตั้งขณะนี้เปรียบเหมือนวิ่งแข่งระยะ 50 เมตรสุดท้าย ฝ่ายเผด็จการวิ่งนำอยู่ข้างหน้า ขณะที่ฝ่ายประชาธิปไตยมีคนคอยขัดขา จึงต้อง “หยุดกลโกง” ถ้าไม่หยุดก็อย่าเรียกว่า “การเลือกตั้ง”
หลายพรรคการเมืองเรียกร้องให้ “4 รัฐมนตรี” ที่เป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐแสดงสปิริต “ลาออก” แต่ “ลุงฉุน” ก็อ้างไม่มีกฎหมายบังคับ ทั้งที่เรียกร้องให้ร่วมกันทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่กลับเพิกเฉยเรื่องสปิริตและจริยธรรมทางการเมือง เหมือนกลุ่มทุนที่ “รวยทะลัก” เพราะกฎหมายไม่บังคับ “การผูกขาด”
แม้แต่กฎกติกาการเลือกตั้งที่ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะการใช้ “บัตรเลือกตั้งใบเดียว” ในระบบจัดสรรปันส่วนผสม “เสรีและเป็นธรรม” หรือไม่ เพียงเพื่อไม่ให้พรรคใดได้เสียงข้างมากเกิน 251 เสียง เป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้
“สติธร ธนานิธิโชติ” นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ให้ความเห็นผ่านงานเสวนา “เลือกตั้งกุมภาฯ 62 ฟรีและแฟร์สำหรับใคร?” ว่า ระบบจัดสรรปันส่วนผสมไม่เป็นธรรมกับผู้สมัคร ส.ส.เขต ยิ่งพรรคขนาดกลางและเล็กไม่ไม่สามารถส่งได้ครบทุกเขตก็เท่ากับเป็นการตัดโอกาสประชาชน
เดิมบัตรเลือกตั้งมี 2 ใบ คิดแยกส่วนได้ แต่บัตรเลือกตั้ง 1 ใบไม่มีใครรู้ ใครตีโจทย์นี้แตกก็จะชนะการเลือกตั้ง และมีคำถามว่าคนได้คะแนนน้อยกว่าจะได้ที่นั่งในสภามากกว่าเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบคือมีโอกาสเป็นไปได้
ระบบจัดสรรปันส่วนผสมแบบเยอรมนีใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และมีระบบโอเวอร์แฮงเกินจำนวน ส.ส. ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์ไม่ให้คะแนนทิ้งน้ำ บัตรใบเดียวจึงมีปัญหาและทำลายจุดแข็งของระบบเลือกตั้ง ขณะที่ “ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” ก็ตีกรรเชียงหายไปแล้ว “กกต.” กลายเป็นผู้รับผิดชอบในทางปฏิบัติ
“กกต.” มีอำนาจให้ทั้ง “ใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง และใบดำ” หากได้ “ใบเหลือง” ต้องลงคะแนนใหม่ “ใบส้ม” อาจเปลี่ยนรัฐบาลได้เลย เพราะจะทำให้ผู้ลงสมัคร ส.ส. ต้องออกจากเกม เช่น พรรคอันดับหนึ่งได้ 200 เสียง พรรคอันดับสองมี 180 เสียง กกต. แจก “ใบส้ม” พรรคอันดับหนึ่ง 10 เขตเลือกตั้ง และต้องหักลบ ส.ส.บัญชีรายชื่อออกอีก ส.ส. อาจหายไปถึง 20 คน
หากเสียง ส.ส. แพ้ชนะกันไม่ขาดก็จะมีการ “ยื้อเวลา” เลือกนายกรัฐมนตรี สุดท้ายอำนาจก็จะอยู่ที่ “ส.ว.ลากตั้ง” สุมหัวกันหักดิบเพื่อเปิดทาง “นายกฯคนนอก”
การเลือกตั้งครั้งนี้จะเสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร?
You must be logged in to post a comment Login