วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แค่เสียอาการ

On December 25, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 ธ.ค. 61)

พรรคพลังประชารัฐที่ก้าวขึ้นเวทีการเมืองในฐานะว่าที่แชมป์ แม้ช่วงนี้จะมีอาการเมาหมัดอยู่บ้างเพราะโดนไปหลายดอก ทั้งเรื่องเงินโต๊ะจีนที่ยังรอเคลียร์ เรื่องว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ไปร่วมแจกบัตรคนจน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ไปตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิกพรรคในงานแจกบัตรคนจน ถึงจะโอนเอนง่อนแง่น แต่หากมองการเมืองอย่างที่เป็น ไม่มองอย่างที่อยากให้เป็น ต้องยอมรับว่าถึงจะโดนรัวหมัดจนหน้าตาปูดบวม แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อรวมคะแนนแล้วจะได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะไม่ได้ ยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะ

ออกตัวแรงยิ่งกว่าล้อฟรี แต่แรงจนท้ายรถปัดเป๋เกือบลงข้างทางสำหรับพรรคพลังประชารัฐที่ประกาศชัดเข็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สอง

จะด้วยความมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญนี้เขียนมาเพื่อพวกเรา หรือมั่นใจในอำนาจของคนที่จะสนับสนุนให้นั่งเก้าอี้นายกฯ หรือย่ามใจ หรือจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ถึงตอนนี้พรรคพลังประชารัฐมีหลายอย่างที่ต้องเคลียร์

ต้องเคลียร์ทั้งความรู้สึกของประชาชน และเคลียร์ทั้งแง่กฎหมาย

ปมแรกเลยคือเงินระดมทุนที่ได้จากการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน 600 กว่าล้านบาท ที่สังคมตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใสในแหล่งที่มาของเงิน และความถูกต้องตามกฎกติกา

อย่างไรก็ตาม หากมองการเมืองอย่างที่เป็นจริง ไม่ได้มองอย่างที่เราอยากให้เป็นหรือมองตามอุดมคติ

ประเด็นเรื่องข้อกฎหมายดูเหมือนว่าไม่มีอะไรน่าหนักใจ เพราะมีทางออกให้เหลืออยู่อย่างน้อย 2 ช่องทาง

ช่องทางแรกไม่มีอะไรในกอไผ่ ชี้แจงไปตามที่กฎหมายกำหนดภายใน 30 วันว่าเงิน 600 กว่าล้านบาทที่ได้มานั้น มีผู้ใหญ่ใจดีที่ไหนบริจาคมาให้บ้าง เรื่องคนกินไม่ได้เป็นคนออกเงินดูจะเป็นเรื่องปรกติ

ความสุ่มเสี่ยงของช่องทางนี้มีอยู่อย่างเดียวคือ ผังรายนามองค์กรที่เข้าร่วมงานระดมทุน ถ้าตัวย่อ ททท. ตัวย่อ กทม. หรือคำว่าคลัง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับหน่วยงานรัฐก็สบายใจหายห่วง

ปัญหาอย่างเดียวของช่องทางนี้คือ คนที่มานั่งโต๊ะตามผังที่ใช้ตัวย่อ ททท. กทม. คลัง ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐก็น่าจะจบ แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอาจถูกไล่บี้ต่อเรื่องเงินที่ใช้ซื้อบัตร ซื้อโต๊ะ ว่าเป็นเงินส่วนตัวหรือไม่ ถ้าใช่ก็ต้องถูกตามไปตรวจสอบสถานะการเงินต่อว่าราคาบัตร ราคาโต๊ะ สมกับฐานะทางการเงินหรือไม่ ถ้าเหมาะสมก็จบ ถ้าไม่เหมาะสมก็ซวย แต่ก็อาจออกช่องซวยส่วนบุคคลในฐานะรับผลประโยชน์เกิน 3,000 บาท เพื่อตัดตอนไม่เกี่ยวกับพรรคได้

ส่วนช่องทางที่สองหากจนแต้มแก้ปมกฎหมายไม่ได้จริงๆก็ปล่อยให้สอบกันไปตามกระบวนการ แม้โทษจะแรงถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง แต่กว่าจะรู้ผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญยังใช้เวลาอีกนานหลายเดือน

กว่าผลสุดท้ายจะออกมาก็ผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว เลือกนายกรัฐมนตรี ตั้งรัฐบาลกันไปแล้วเรียบร้อย ถึงพรรคจะถูกยุบ ส.ส. ก็ย้ายไปสังกัดพรรคในเครือข่ายได้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนคนที่ถูกตัดสิทธิที่เป็น ส.ส. ก็คงมีไม่มาก พวกที่เขี้ยวลากดินทางการเมืองส่วนมากหลบไปนั่งตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค

ประเด็นเงินระดมทุนโต๊ะจีนในแง่กฎหมายจึงไม่น่ามีอะไรกระทบมาก แต่ที่จะเคลียร์ไม่ออก ลบยากหน่อยคือความรู้สึกของประชาชน พวกเลือกข้างไปแล้วไม่ต้องพูดถึง งานนี้ต้องยอมรับว่าเสียการสนับสนุนจากคนกลางๆไปพอสมควร เพราะสิ่งที่ทำมาไม่สะท้อนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หรือแสดงให้เห็นความต่างจากการเมืองในอดีต

พ้นจากเรื่องโต๊ะจีนยังมีเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนที่ถือว่าล่อแหลมอยู่พอสมควร เมื่อปรากฏภาพว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคไปร่วมแจกบัตร และกรณีเอาใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแจกในงานรับบัตรคนจน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่เรื่องเกิดตอนนี้ยังหาทางแก้ไขได้ทัน ทางออกคือคนที่ทำอะไรโจ๋งครึ่มอาจต้องรับผิดชอบในทางส่วนตัวเพื่อตัดตอนไม่ให้เกี่ยวโยงมาถึงพรรค

สรุปถึงจะโดนหลายหมัดเพราะย่ามใจ แต่เต็มที่แค่ทรุดหลังพิงเชือก ไม่ถึงกับถูกน็อกคาเวที อาจจะขาเป๋เมาหมัดหน้าตาปูดบวมจากพิษหมัดคู่ชกบ้าง แต่คนที่คิ้วแตกตาช้ำไม่ใช่ว่าจะรวมคะแนนได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะไม่ได้


You must be logged in to post a comment Login