- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
คึกคะนองเกินงาม
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 ธ.ค. 61)
หลังมือใหม่ทางการเมืองและมือเก่าเก๋าเกมส่อว่าจะคึกคะนองจนเกินงามด้วยมั่นใจในอำนาจแบ็กอัพที่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง สร้างเรื่องให้ต้องตามล้างตามเช็ดแทบไม่เว้นแต่ละวัน จนต้องให้มือกฎหมายติวเข้มกันอีกครั้งว่าอะไรควรอะไรไม่ควรเพื่อเตือนให้เพลาๆมือลงบ้าง แค่ 4-5 เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็แทบไม่ไหวแล้ว ระหว่างนี้ไม่ควรสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกก่อนที่งานใหญ่จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ขนาด “ลุงตู่” ยังต้องส่งสัญญาณว่าอย่ารีบเอาชื่อไปประกาศบนเวทีปราศรัยว่าเลือกแล้วจะได้ตัวเองกลับมาเป็นนายกฯ รอให้เปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อน
จะด้วยมั่นใจอำนาจแบ็กอัพที่อยู่ข้างหลังมากเกินไปหรือไม่ไม่ทราบ ทำให้พรรคพลังประชารัฐขาดความรัดกุมในการก้าวเดินทางการเมืองจนสะดุดขาตัวเองเสี่ยงหกล้มอยู่หลายครั้ง
อาการเซที่เกิดขึ้นตอนนี้ต้องรอดูว่าจะตั้งหลักให้ตรงแล้วเดินต่อไปได้หรือไม่ หรือแค่ใครเอามือมาแตะเบาๆก็ล้มคว่ำ
ความจริงหากว่ากันอย่างตรงไปตรงมาถือว่าพรรคพลังประชารัฐมีความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโต๊ะจีนระดมทุนเลือกตั้งที่สะสมทุนได้กว่า 600 ล้านบาท เรื่องมีรูปว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคไปโชว์ตัวและปราศรัยในงานแจกบัตรคนจน หรือเรื่องคลิปวิดีโอว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคขนเจ้าหน้าที่ไปตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิกพรรคในสถานที่เดียวกันกับหน่วยงานราชการตั้งโต๊ะรับทำบัตรคนจน
ไหนจะเรื่องใหม่ล่าสุดที่ถูกร้องให้ตรวจสอบคือ ความไม่ถูกต้องในสถานะของนายอุตตม สาวนายน ที่มีผู้สงสัยว่าจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคโดยที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค
ประเด็นปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นแม้ผู้เกี่ยวข้องในพรรคพลังประชารัฐจะออกมาปฏิเสธ แต่หากจับสังเกตดีๆจะเห็นว่าการปฏิเสธไม่ได้เป็นไปอย่างหนักแน่น
บางเรื่องปฏิเสธโดยออกตัวว่าพร้อมแก้ไขให้ถูกต้องหากก้าวพลาดไป อย่างกรณีเงินโต๊ะจีนที่ประกาศว่าหากตรวจสอบพบว่าที่มาของเงินไม่ถูกต้องก็พร้อมจะคืน
หรือเรื่องไปรับสมัครสมาชิกพรรคพร้อมคณะรับทำบัตรคนจนตามนโยบายรัฐบาลทหาร คสช. เรื่องการขาดคุณสมบัติของหัวหน้าพรรค ก็ปฏิเสธแบบโยนเผือกร้อนไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ
การปฏิเสธในลักษณะนี้ทางการเมืองเรียกว่าหลังพิงเชือกเด้งไม่ออก ต้องยอมรับสภาพ รอวัดใจกรรมการว่าจะจับแพ้ ถ่วงเวลาให้ หรือปล่อยผ่าน
อาการซวนเซของพรรคพลังประชารัฐยังสะท้อนออกมาจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องออกปากเตือนพรรคการเมืองที่ไปประกาศบนเวทีปราศรัยว่าจะสนับสนุนตัวเองให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง โดยระบุว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ แถมยังเตือนรัฐมนตรีในรัฐบาลให้ระมัดระวังการดำเนินงานทางการเมือง
“ขอเตือนให้พรรคการเมืองระมัดระวังในการกล่าวอ้างชื่อผมบนเวทีต่างๆ ตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าร่วมพรรคใดก็อย่านำไปแอบอ้าง เพราะทุกอย่างได้ทำตามกฎหมาย ต้องรอเวลาพิจารณาว่าจะเข้าร่วมพรรคใดอีกครั้ง ขอให้เคารพการตัดสินใจของผมด้วย”
ทั้งนี้ หลังมือใหม่ทางการเมืองในคณะรัฐมนตรีและพวกมือเก่าที่มั่นใจในอำนาจแบ็กอัพจนเกินไปก้าวพลาดบ่อยจนอาจตามเคลียร์กันไม่ไหว ทำให้ต้องให้มือกฎหมายของรัฐบาลอย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ช่วยติวเข้มข้อควรทำไม่ควรทำอีกครั้งกลางวงประชุมคณะรัฐมนตรี กระตุกเตือนเพื่อไม่ให้คึกคะนองเกินงามจนเสียงานใหญ่
แค่นี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์
You must be logged in to post a comment Login