- อย่าไปอินPosted 4 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 22 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ฆาตกรรมฆาตกร
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2561-4 มกราคม 2562)
ชายทุพพลภาพรอดพ้นจากการต้องโทษในคดีฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพราะความพิการ หลังจากนั้นเขาใช้ข้อด้อยของร่างกายเป็นอาวุธขู่สังหารคนในครอบครัวหากพวกเขาขัดใจ ภายใต้สถานการณ์ความหวาดกลัว ภรรยาจึงตัดสินใจชิงลงมือก่อน
เกรดี้ แฟรงกลิน สไตลส์ จูเนียร์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1937 เขามีร่างกายพิการ มือและเท้ามีลักษณะคล้ายก้ามปูตั้งแต่กำเนิด ทำให้ไม่สามารถเดินเหินหรือหยิบจับสิ่งของได้เหมือนคนปรกติ เป็นโรคที่สามารถส่งต่อทางพันธุกรรม โดยที่เกรดี้ ซีเนียร์ ผู้เป็นพ่อ ก็เป็นโรคร้ายนี้เช่นเดียวกัน
เกรดี้ ซีเนียร์ พลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการพาลูกชายเดินสายออกโชว์ตัวภายใต้ชื่อการแสดงว่า Lobster Family (ครอบครัวกุ้งล็อบสเตอร์) ส่วนเกรดี้ จูเนียร์ ได้รับสมญานามว่า Lobster Boy (หนูน้อยกุ้งล็อบสเตอร์)
เกรดี้ ซีเนียร์ ทำรายได้จากการนำลูกชายออกโชว์ตัวมากพอสมควร สามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้มีความสุขสบายไม่แพ้คนปรกติทั่วไป จนกระทั่งเกรดี้ จูเนียร์ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แยกตัวออกมาตั้งคณะละครสัตว์ของตัวเอง แต่งงานกับมาเรีย เทเรซา หญิงม่ายลูกสองที่มีร่างกายปรกติซึ่งทำงานในคณะละครสัตว์ด้วยกัน เกรดี้และมาเรียมีบุตร 4 คน เป็นคนร่างกายปรกติ 2 คน และพิการเหมือนพ่อ 2 คน
คนหัวร้อน
เกรดี้ได้ชื่อว่าเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย และโมโหร้าย จนคนในคณะละครสัตว์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเสวนากับเขา เหตุการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเกรดี้ติดสุราและสูบบุหรี่อย่างหนัก เขาเริ่มทำร้ายภรรยาและลูกๆจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
ฟางเส้นสุดท้ายถูกวางลงในปี 1978 เมื่อเกรดี้ตบตีมาเรียจนเธอล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ตรงไปกระชากห่วงอนามัยคุมกำเนิดออกจากมดลูก สร้างความเจ็บปวดอย่างสาหัสให้กับมาเรีย เธอไม่สามารถทนอยู่กับเกรดี้ได้อีกต่อไป มาเรียตัดสินใจแยกทางเดิน ปล่อยให้ลูกๆเผชิญชะตากรรมกับพ่อหัวร้อนตามลำพัง
การออกเดินสายโชว์ตัวแต่ละฤดูกาลทำรายได้ราว 50,000-80,000 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามากพอดู จึงไม่น่าแปลกใจที่เกรดี้สามารถหาภรรยาคนใหม่ได้ไม่ยากนัก ขณะที่มาเรียแต่งงานใหม่กับชายร่างเล็กที่สุดในโลก หนึ่งในนักแสดงละครสัตว์อีกคณะหนึ่ง
ต่อมาในปี 1988 ดอนน่า ลูกสาวคนโตวัย 15 ปี นอกจากจะไม่พิการแบบพ่อแล้ว เธอยังสวยใสเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ดอนน่าพบรักกับแจ๊ค เลน เพื่อนบ้านหนุ่มวัย 18 ปี สร้างความไม่พอใจให้กับเกรดี้ เขาบอกให้ลูกสาวเลิกคบหากับแจ๊ค แต่คราวนี้ดอนน่าไม่เชื่อฟัง
อยู่มาวันหนึ่งเกรดี้บอกให้ดอนน่าพาเขานั่งรถเข็นไปที่โรงรับจำนำ เกรดี้ซื้อปืนพกสั้นขนาด .32 ต่อหน้าลูกสาว เพื่อบอกเป็นนัยว่าหากดอนน่ายังดื้อดึงไม่เชื่อฟังเขาจะใช้มันกับแจ๊ค ดอนน่าตกใจกลัวหนีไปอยู่บ้านพี่สาวของแจ๊คที่อยู่ห่างจากบ้านเกรดี้ไปไม่ไกล
จอมวางแผน
6 วันต่อมาดอนน่าโทรศัพท์กลับมาที่บ้านบอกกับพ่อว่าเธอจะแต่งงานกับแจ๊ค เกรดี้รับสายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ขู่ลูกสาวว่าหากไม่ยอมกลับบ้านภายใน 5 นาที เขาจะตามไปกระทืบให้ถึงที่ หลังจากนั้นจะกลับมาฆ่าแจ๊คให้ตาย
ดอนน่าขู่กลับว่าถ้าเกรดี้ไม่ยอมให้เธอเข้าพิธีวิวาห์ถูกต้องตามประเพณี เธอจะหนีตามแจ๊คให้รู้แล้วรู้รอด ได้ยินดังนั้นเกรดี้ถึงกับเสียงอ่อยลงและยินยอมให้ดอนน่าแต่งงานกับแจ๊คตามที่เธอต้องการ พิธีวิวาห์ถูกกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 28 กันยายน
วันที่ 27 กันยายน ดอนน่ากับแม่เลี้ยงและแจ๊คชวนกันไปเลือกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ห้างสรรพสินค้า หลังจากกลับมาถึงบ้านก็พบเกรดี้นั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขก ดอนน่าและแม่เลี้ยงจึงออกจากห้องไปช่วยกันหารถเข็นมาให้ เกรดี้เรียกให้แจ๊คเข้าไปหา เขาล้วงมือไปหยิบปืนพกที่ซ่อนอยู่ใต้เบาะนั่งแล้วลั่นกระสุนใส่ที่หน้าอกแจ๊ค
แจ๊คหันหลังวิ่งหนีก่อนจะถูกเกรดี้ลั่นกระสุนใส่ที่กลางหลังอีกหนึ่งนัด เขาทรุดลงขณะที่ดอนน่าตรงเข้าไปประคองร่าง แจ๊คสิ้นใจในอีก 30 นาทีต่อมา ตำรวจรวบตัวเกรดี้ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองเอาไว้ก่อน ส่วนดอนน่าหนีไปอยู่กับแม่ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก
รอดเพราะพิการ
การสืบพยานดำเนินไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วัน เกรดี้สารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน โดยอ้างว่ากระทำไปเพราะต้องการปกป้องลูกสาวจากการถูกล่อลวงให้เข้าพิธีวิวาห์ก่อนถึงวัยอันควร แม้ว่าเกรดี้จะถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่ศาลไม่รู้ว่าจะลงโทษเขาอย่างไร เพราะเรือนจำไม่มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับคนทุพพลภาพ อีกทั้งเกรดี้เป็นโรคตับวายจากการดื่มสุราอย่างหนักและโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่จัด
สุดท้ายแล้วศาลตัดสินลงโทษด้วยการจำกัดเขตให้อยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 15 ปี เกรดี้กลับเนื้อกลับตัวคว่ำแก้วเลิกดื่มสุรา แต่ก็สายเกินไป เพราะภรรยาใหม่ขอแยกทางเดิน อาจเป็นเพราะความไม่สบายใจที่ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับฆาตกรเลือดเย็น
ปี 1989 มีมหกรรมละครสัตว์ในเมืองเทมปา รัฐฟลอริดา มาเรียและสามีใหม่ชายร่างเล็กที่สุดในโลกก็เดินทางมาเปิดการแสดงเช่นกัน ทำให้มาเรียและเกรดี้ได้พบกันอีกครั้ง ทั้งคู่ประสานความสัมพันธ์จนกระทั่งมาเรียยินยอมจะกลับมาคืนดีกับเกรดี้ อาจเป็นเพราะเธอเห็นว่าเกรดี้เลิกดื่มสุราอย่างเด็ดขาดแล้ว
หลังจากได้ภรรยาคนเก่ามาครอบครอง เกรดี้ก็กลับไปดื่มสุราอีกและคราวนี้หนักยิ่งกว่าเดิม เขาตบตีภรรยาและลูกๆเหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้ อีกทั้งคราวนี้ยังขู่ฆ่าให้ตายหากใครทำอะไรขวางหูขวางตา เพราะเขาจะไม่มีวันติดคุก เคธีลูกสาวพิการที่กำลังท้อง 7 เดือน เข้าไปขวางไม่ให้เกรดี้ทำร้ายแม่ ทำให้เธอถูกลูกหลงจนตกเลือด ต้องทำการผ่าตัดช่วยเหลือลูกในท้องอย่างเร่งด่วน
ตัดไฟแต่ต้นลม
ฟางเส้นสุดท้ายถูกวางลงอีกครั้ง คืนหนึ่งขณะที่มาเรียกำลังนอนหลับ พลันก็ต้องตกใจตื่นลืมตาพบว่าเกรดี้กำลังนั่งคร่อมร่างโดยมีมีดในมือทำท่าปาดคอเธอก่อนจะคลานต้วมเตี้ยมจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นสุราเหม็นคลุ้งโชยทั่วห้อง มาเรียตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ภัยร้ายจะมาถึงตัวเธอและลูกๆ
มาเรียปรึกษากับแฮรี่ นิวแมน ลูกชายที่เกิดกับสามีคนแรก และเป็นหนึ่งในนักแสดงละครสัตว์ฉายามนุษย์หัวทื่อ ที่ได้ฉายานี้ไม่ใช่เพราะเขามีไอคิวต่ำแค่ 79 แต่เป็นการเล่นคำจากการแสดงใช้ศีรษะตอกตะปู
แฮรี่ว่าจ้างคริส ไวแอนต์ เพื่อนบ้านวัย 17 ปี ให้ทำการสังหารเกรดี้ด้วยเงิน 1,500 ดอลลาร์ เวลา 23.00 น. คืนวันที่ 29 พฤศจิกายน 1992 คริสแอบเข้าไปในรถบ้านสำหรับการออกทัวร์ของเกรดี้ขณะที่เขากำลังนั่งดูโทรทัศน์ในชุดนุ่งกางเกงในตัวเดียว คริสลั่นกระสุนขนาด .32 ใส่หลังศีรษะเกรดี้ในระยะเผาขน เขาเสียชีวิตโดยทันที
ในเวลาต่อมาตำรวจรวบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดได้ทั้งหมด คริสถูกตัดสินจำคุก 27 ปีในข้อหาเป็นผู้ลั่นกระสุนสังหาร มาเรียถูกตัดสินจำคุก 12 ปีในข้อหาสมรู้ร่วมคิด ส่วนแฮรี่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาผู้บงการ มาเรียให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายก่อนถูกนำตัวไปเรือนจำว่า “ฉันเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างน้อยครอบครัวฉันก็ปลอดภัยแล้ว”
1.เกรดี้ แฟรงกลิน สไตลส์ จูเนียร์
2.เกรดี้ จูเนียร์ และเกรดี้ ที่สาม
3.เคธี, เกรดี้ จูเนียร์ และเกรดี้ ที่สาม
4.ตำรวจควบคุมตัวเกรดี้
5.เกรดี้ ที่สาม, มาเรีย และเคธี
6.มาเรีย เทเรซา
7.เกรดี้ ที่สาม, เกรดี้ จูเนียร์ และเคธี
8.แฮรี่ นิวแมน
9.คริส ไวแอนต์
You must be logged in to post a comment Login