วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

คัมภีร์กุรอาน’แผนที่บอกทางสู่ความสำเร็จ

On January 2, 2019

คอลัมน์ สันติธรรม

‘คัมภีร์กุรอาน’แผนที่บอกทางสู่ความสำเร็จ

โดย บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้วันสุข 4-11 มกราคม  2562)

กว่าโลกจะมาถึงวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และผู้ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือบุคคลสำคัญๆของโลกในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทหาร และจิตวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงต้องใช้ปัจจัยต่างๆมากมาย รวมทั้งเวลา

มีหลายคนสงสัยว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้นบีมุฮัมมัดประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงสังคมเผ่าชาวอาหรับที่เชื่อถือโชคลางไสยศาสตร์ กราบไหว้บูชารูปเคารพมากมาย ไร้กฎหมายและไร้อารยธรรม ให้ละทิ้งความเชื่อเดิมและหันมานับถือพระเจ้าองค์เดียว และทำให้ชนเผ่าอาหรับรวมตัวกันเป็นรัฐที่ต่อมาได้กลายเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมแห่งหนึ่งของโลกภายในระยะเวลา 23 ปี

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ นบีมุฮัมมัดเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด ฐานะยากจน ไม่รู้หนังสือ และไม่มีกองทัพประจำการ

quran origin

นักวิชาการชาวตะวันตกที่ศึกษาผลงานและชีวประวัติของมหาบุรุษที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลกสรุปว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้นบีมุฮัมมัดประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็คือคัมภีร์กุรอานที่ถูกประทานมาจากพระเจ้าเพื่อเป็นแผนที่บอกทาง (Road Map) ในการปฏิบัติภารกิจ และอีกสิ่งหนึ่งก็คือบุคลิกภาพส่วนตัวที่น่าเชื่อถือของนบีมุฮัมมัดเอง

นบีมุฮัมมัดได้รับกุรอาน 5 โองการแรกโดยการดลใจจากพระเจ้าเมื่อท่านอายุ 40 ปี หลังจากนั้นก็มีโองการคำสั่งต่างๆทยอยลงมามากบ้างน้อยบ้างตามความต้องการของสถานการณ์และเวลา เพื่อบอกให้ท่านรู้ว่าจะต้องทำอะไรและอย่างไร ไม่ต่างไปจากบทละครที่ท่านต้องแสดงไปตามบท

เมื่อศึกษาคัมภีร์กุรอานตามลำดับเวลา พระเจ้าได้แจ้งให้นบีมุฮัมมัดทราบว่าภาระหน้าที่สำคัญของท่านคือการเรียกร้องเชิญชวนผู้คนมาสู่การศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว และเชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์ที่จะทยอยส่งลงมา

แต่ภารกิจอันยิ่งใหญ่ต้องใช้ทั้งเงินและคนซึ่งท่านไม่ได้เตรียมไว้ เพราะท่านไม่รู้ว่าจะได้รับมอบหมายภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้

ท่านเริ่มต้นหาคนสนับสนุนจากในครอบครัว ภรรยาคนแรกของท่านเป็นผู้หญิงคนแรกที่ประกาศตัวเป็นมุสลิม หลังจากนั้นก็มีคนในครอบครัวและเพื่อนซึ่งรวมแล้วมีไม่ถึงสิบคน ส่วนเงินทุนเริ่มต้นการปฏิบัติภารกิจมาจากการบริจาคของภรรยาและเพื่อนสนิทที่เป็นพ่อค้า เงินเหล่านี้ถูกนำไปช่วยเหลือคนยากจนและปลดปล่อยทาส ดังนั้น ในตอนต้นคนที่หันมารับนับถืออิสลามส่วนใหญ่จึงเป็นคนยากจนและทาส แต่คนเหล่านี้เองที่มีส่วนช่วยนบีมุฮัมมัดประสบความสำเร็จ

เมื่อหัวหน้าชาวเมืองมักก๊ะฮฺมองว่าภารกิจของนบีมุฮัมมัดเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจการปกครองของตนและหาทางกำจัดท่าน ท่านจึงต้องอพยพออกจากมักก๊ะฮฺไปยังมะดีนะฮฺ ซึ่งที่นั่นมีชาวเมืองให้การต้อนรับและสนับสนุนท่านอยู่แล้ว

เมื่อไปถึงที่นั่นท่านได้ช่วยเหลือผู้อพยพโดยการให้ชาวมุสลิมในมะดีนะฮฺช่วยรับผู้อพยพจากมักก๊ะฮฺไปเป็นพี่น้องและดูแลเรื่องความเป็นอยู่ การผูกความสัมพันธ์ฉันพี่น้องนี้แน่นแฟ้นถึงขั้นที่ผู้อพยพมีสิทธิ์รับมรดกจากมุสลิมผู้อุปการะตนเหมือนพี่น้องโดยสายเลือด

หลังจากอพยพไปได้ไม่ถึง 2 ปี สงครามครั้งแรกได้เกิดขึ้นเมื่อชาวมักก๊ะฮฺยกกองกำลังมารุกราน แต่ต้องพ่ายแพ้กลับไป ทิ้งอาวุธและทรัพย์สินจำนวนมากมายไว้ในสนามรบ เดิมทีแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ใครเก็บได้ก็เป็นสมบัติของคนนั้น ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้มีบัญชาให้นบีมุฮัมมัดแบ่งทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้จากสงครามออกเป็น 5 ส่วน 4 ส่วนแบ่งสรรไปในหมู่ผู้เข้าร่วมสงคราม และอีก 1 ส่วนเป็นของท่านซึ่งต้องนำไปเลี้ยงดูครอบครัว คนยากจน หญิงม่าย และเด็กกำพร้า

จากสถานการณ์อันวิกฤตนี้เองที่ทำให้ระบบการคลังของอิสลามค่อยๆเริ่มก่อตัวขึ้น  


You must be logged in to post a comment Login