วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“อนุทิน”เผยส่งผู้สมัครครบ350เขตลั่นพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

On January 3, 2019

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมของพรรคต่อการเลือกตั้งตามโรดแม็พวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ว่า เราพร้อมมานานแล้ว เพราะคิดว่าการเลือกตั้งควรจะเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว เราไม่ได้เป็นผู้กำหนดการเลือกตั้ง ดังนั้น สิ่งที่เราจะทำได้คือเรื่องความพร้อมของเรา ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม จะเลือกตั้งเมื่อไรก็พร้อม ทางพรรคภูมิใจไทยได้เคาะผู้สมัคร ส.ส. ไว้หมดแล้ว รอเพียงการประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ส.ส. เท่านั้น อาจเหลือเพียงการปรับนิดหน่อย ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่นัยสำคัญ เนื่องจากผู้ที่มีคุณสมบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีพื้นที่ชัดเจนและผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของพรรคแล้วก็ค่อนข้างที่จะได้รับการเสนอ ตอนนี้ก็รอคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ทำการเคาะครั้งสุดท้ายก่อนเสนอให้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคลงนามต่อไป

“ในเบื้องต้นทางพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบ 350 เขต และส่งคนที่เหมาะสมที่สุด จะไม่ส่งคนที่ไปเก็บกวาดคะแนน หยิบเล็กหยิบน้อยมาเพื่อที่จะมาอ้างว่าเอามาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เราจะไม่หลอกประชาชน ส่วนที่มีคนพยายามบอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะไปจับมือกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ ผมคิดว่าเราอาจจะเป็นแกนนำก็ได้ เพราะเราส่ง 350 เขต มันพิสูจน์แล้วว่าเรามีความพร้อมพอสมควร” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าสถานการณ์วันนี้ประเมินว่าพรรคจะได้ ส.ส. เท่าไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ไม่ประเมิน เพราะประเมินไปก็เท่ากับเราไปตีกรอบและไม่เคารพเสียงของประชาชน ได้เท่าไรก็คือคำตัดสินใจของท่านเหล่านั้น พรรคภูมิใจไทยน้อมรับทุกๆคะแนน จะแปรการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่ผ่านออกมาในรูปแบบของคะแนนที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคภูมิใจไทย รับรองว่าตนแปรถูก และจะเดินไปในทิศทางที่ท่านเหล่านั้นต้องการ

นายอนุทินยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2562 ว่า คิดว่าการเมืองในปีนี้จะมีความชัดเจนขึ้น ทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นที่มั่นใจของประชาคมโลก หากมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นภายในระยะเวลาตามโรดแม็พ ซึ่งก็ว่ากันแฟร์ๆ ตนเห็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามตารางเวลาที่ได้วางแผนเอาไว้ ดังนั้น ต้องขอขอบคุณท่านเหล่านั้น การเลือกตั้งเที่ยวนี้ต้องถือว่าในทางการแข่งขันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร ไม่ได้เลือกตั้งท่ามกลางความขัดแย้งขั้วใดขั้วหนึ่ง เป็นการเลือกตั้งที่ทุกคนอาสาสมัครลงมาต่อสู้ ไม่มีพรรคไหนถอนตัวจากการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนที่บอกว่าไม่พอใจในบทบัญญัติต่างๆตามกฎหมายและก็ถอนตัว ถือว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ทุกคนอาสาเข้ามาแข่งขัน ดังนั้น ก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ที่จะออกมาบนความตัดสินใจของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่ยอมรับผลการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนก็เท่ากับว่าเราไม่เล่นตามกติกา และเราไม่เชื่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้ตัดสินอนาคตทุกเรื่องของเรา ตรงนี้มันทำไม่ได้ เราต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนคือเสียงสวรรค์ เสียงสูงสุดเป็นทิศทางที่พวกเราจะเดินไปทางไหน

“ในเมื่อทุกคนยอมรับกติกาเหล่านี้ได้ ไม่มีใครได้เปรียบใคร ไม่มีความขัดแย้ง แล้วลงมาเลือกตั้งแข่งขันกันแบบแฟร์ๆ ผมเชื่อว่าบ้านเมืองหลังการเลือกตั้งก็น่าจะเข้าสู่ความสงบสุข พรรคภูมิใจไทยยืนยันได้เลยว่าด้วยอำนาจของหัวหน้าพรรคจะไม่เป็นอุปสรรค และทำให้บ้านเมืองเจริญไปข้างหน้า แก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านได้สำเร็จ และไม่เป็นพรรคที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในทางกลับกันก็พร้อมทำหน้าที่เป็นทางออกให้บ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อยมากที่สุด” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว


You must be logged in to post a comment Login