วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นายกฯสั่งทุกหน่วย-10จังหวัดใต้รับมือ”ปาบึก”

On January 3, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยสั่งการให้วางแผนและติดตามข้อมูลข่าวสารจังหวัดต่างๆที่พายุโซนร้อน “ปาบึก” จะพาดผ่าน ซึ่งมีความแตกต่างเรื่องการเตรียมการ เนื่องจากสถานการณ์แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากตึกไทยคู่ฟ้าไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง 10 จังหวัดในภาคใต้ ในวันนี้เวลา 15.30 น. เพื่อติดตามสถานการณ์พายุดังกล่าวพาดผ่านเข้าภาคใต้ของไทย พร้อมพูดคุยสั่งการไปถึงผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยตรง โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ ตัวแทนทหาร ตำรวจ และหน่วยงานเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งขณะนี้บางจังหวัดได้สั่งการอพยพประชาชนบางส่วนแล้ว และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก ขณะเดียวกันได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว

ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  กล่าวว่า ปภ. ได้แจ้งเตือนไปยังทุกจังหวัดภาคใต้และพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่องทุกวัน ส่วนแผนเผชิญเหตุได้แจ้งให้จังหวัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังเพื่อประเมินสถานการณ์ในจังหวัดของตนเอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือไปยัง ปภ. จ.สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ลงไปสมทบ 3 ศูนย์เขตในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งบุคลากรต่างๆ รวมถึงเครื่องจักรในการบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าความรุนแรงของพายุจะอยู่ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงถึง 5 เมตร จึงได้สั่งการให้เรือทุกชนิดงดออกจากชายฝั่ง

นายชยพลกล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมีความรุนแรงซ้ำรอยเหตุการณ์ที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราชนั้น ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สื่อสารไปยังประชาชนในทุกพื้นที่ พร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะผู้ป่วย ผู้พิการ เด็ก และคนชรา ซึ่งใน จ.นครศรีธรรมราชและ จ.สุราษฎร์ธานีได้ทำการอพยพประชาชนแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า 2 พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นจุดที่พายุมีความรุนแรงที่สุด เนื่องจากมีการประเมินจากหลายภาคส่วนที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ก็สามารถสื่อสารกับประชาชนได้ว่าพายุในครั้งนี้มีความรุนแรงมาก พร้อมยืนยันว่าหากพายุนี้มีความรุนแรงตามที่ได้คาดการณ์ไว้จริงจะสามารถรักษาชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนได้จำนวนมาก


You must be logged in to post a comment Login