“วัฒนา”มั่นใจคลิปฉาวเป็นฝีมือคนมีอำนาจเผยแพร่เตรียมฟ้องดำเนินคดี

On January 3, 2019

นายวัฒนา เมืองสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปลับหลุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 ว่า เหตุที่ไม่ออกมาชี้แจงหรือตอบโต้หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิป เพราะไม่ต้องการให้เป็นกระแสใหญ่โต แต่กลับมีการเผยแพร่ โดยเฉพาะสื่อมวลชนนำเสนอข่าวสร้างความเสียหายให้กับตนเป็นอย่างมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำทั้งหมดเป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง เพราะนำคลิปมาเผยแพร่ก่อนวันที่พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่ 1 วัน พร้อมทั้งนำโลโก้ของพรรคเพื่อไทยใส่เข้าไปในคลิป

“หลังจากนี้จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล ทั้งเอาผิดเจ้าของโรงแรมข้อหาอนาจาร เข้าข่ายก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของโรงแรมที่ปล่อยให้มีการกระทำละเมิดสิทธิกับผู้ใช้บริการ เตรียมร้องกรมการปกครองให้เพิกถอนใบอนุญาตกับโรงแรม พร้อมกันนี้จะมอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มที่ฉวยโอกาส มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดรู้ตัวแล้วและมีจำนวนหลายคน”

นายวัฒนากล่าวอีกว่า ที่ไม่แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม จึงจะไปฟ้องร้องต่อศาล เพราะเป็นคดีแพ่งและคดีอาญา ส่วนที่ผู้บัญชาการทหารบกออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือของฝ่ายความมั่นคงนั้น นายวัฒนากล่าวว่า ยังไม่เคยระบุว่าเป็นฝีมือของกองทัพ แต่เชื่อว่าการกระทำทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้มีอำนาจระดับสูงที่คนปรกติไม่สามารถทำได้ ดังนั้น จึงหวังว่ากระบวนการยุติธรรมของศาลจะให้ความเป็นธรรมกับตน พร้อมกันนี้ตนและนางสาวณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จะเป็นผู้ร้องทุกข์ยื่นฟ้องต่อศาล เพราะเป็นผู้เสียหายร่วมกัน

นายวัฒนากล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อภาพลักษณ์การเมืองและอนาคตทางการเมืองในพรรคเพื่อไทย และตนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่บางแคต่อไป

“หลังจากเกิดเหตุการณ์มีผู้ใหญ่หลายคนในพรรคเพื่อไทยให้กำลังใจ รวมถึงนายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจและให้ผมเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด และในวันที่ 5 มกราคมนี้ จะลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในพื้นที่บางแค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เชื่อว่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จะเข้าใจและสนับสนุนผมต่อไป เพราะเชื่อว่าสังคมไทยปัจจุบันมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะแยกแยะได้” นายวัฒนากล่าว

Featured