ยืมแล้วโชคร้าย?

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4 ม.ค. 62)

สำนักข่าวอิศรารายงานประวัติพัฒนาการของนาฬิกาที่ถือเป็นหนึ่งใน “เทคโนโลยีแห่งปัญญา” โดยพระคริสเตียนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างนาฬิกา ซึ่งนาฬิกาเรือนแรกถูกสร้างขึ้นในวัดเพื่อกิจกรรมของพระ และเสียงนาฬิกาจากหอคอยของวัดทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในชุมชนรอบวัดได้ออกมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้

จนในศตวรรษที่ 14 นาฬิกาได้แพร่หลายทั่วไป และกลายเป็นสื่อประสานการทำงานของผู้คนในสังคมเมือง ซึ่งมีความเชื่อว่า “ไม่ควรขอยืม” หรือ “ให้ยืมใส่” โดยสังคมไทยสมัยก่อนมีข้อห้ามที่พูดกันติดปากว่าไม่ควรขอยืมหรือให้ยืมสิ่งของที่เป็นของใช้ส่วนตัว เป็นต้นว่า ปืน กล้องถ่ายรูป รถยนต์ พระเครื่อง ฯลฯ นอกจากนี้ในบางประเทศยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามหยิบยืมของส่วนตัวเช่นกัน เป็นต้นว่า

การขอยืมปากกาจากใครไปแล้วไม่ยอมคืน จะทำให้คนผู้นั้นยากจนอย่างน่าเวทนา และตกอยู่ในห้วงแห่งความอัปยศอดสู

ห้ามขอยืมเสื้อผ้าผู้อื่นมาสวมใส่ เพราะจะนำโชคร้ายและเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีมาสู่ผู้ยืมเอง

ห้ามให้ผู้อื่นยืมผ้าเช็ดหน้า เพราะเรากำลังมอบความมั่งคั่งและโชคชะตาให้กับผู้นั้น

ห้ามขอยืมนาฬิกาของผู้อื่นมาสวมใส่เด็ดขาด เพราะผู้ยืมจะประสบปัญหาในชีวิตการงาน รวมทั้งจะเกิดปัญหาด้านการเงินด้วย

ความเชื่อเรื่องการขอยืมสิ่งของส่วนตัวอาจเป็นอุบายเพื่อเตือนสติไม่อยากให้คนผิดใจกัน หรือป้องกันไม่ให้ผู้ให้ยืมขาดสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ หรือป้องกันการเกิดโรคติดต่อก็ตาม แต่ก็เป็นความเชื่อที่ยังมีมนต์ขลังอยู่จนปัจจุบัน

อย่างกรณี “ลุงป้อม” หยิบยืมนาฬิกาหรูของเพื่อนมาสวมใส่จนถูก “ป.ป.ช.” ที่ถือเป็น “องค์กรปราบโกง” สอบสวนว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือไม่  “ป.ป.ช.” ใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มก่อนจะมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 ว่าไม่มีมูลเพียงพอจะดำเนินการต่อได้ ทำให้ “ป.ป.ช.” ถูกวิพากษ์วิจารณ์และเปรียบเหมือน “องค์กรฟอกขาว” ให้กับผู้มีอำนาจ

ความเชื่อ “ห้ามขอยืมนาฬิกา” จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่กำลังเป็นกระแสทางสังคมรุมประณามทั้ง “ลุงป้อม” และ “ป.ป.ช.” รวมถึงรัฐบาล “ลุงฉุน” ที่ประกาศ “ต้านโกง” และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในการทำความดี ขนาดเขียน “ค่านิยม 12 ประการ”

กรณี “ยืมนาฬิกาเพื่อน” ของ “ลุงป้อม” ทำให้ “ค่านิยม 12 ประการ” และเรื่อง “การปราบโกง” กลายเป็น “ตลกร้ายทางการเมือง” ที่…ฮาไม่ออก!!

You must be logged in to post a comment Login