“หญิงหน่อย”ชี้้ออกไปเลือกตั้งน้อยลุงอยู่ต่อและจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีก4-8ปี

On January 5, 2019

ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม ฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมด้วยทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นำโดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต ส.ส.เขตคลองสามวา และนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสะพานสูง ร่วมลงพื้นที่แนะนำตัว ทักทายสอบถามปัญหาชาวบ้านในตลาด ร่วมสวดมนต์ ทำบุญตักบาตร ก่อนเข้ามาจัดกิจกรรม “พรรคเพื่อไทยพบประชาชนพร้อมรับฟังปัญหา” มีประชาชนประมาณ 100 คนร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยอดีต ส.ส.เพื่อไทยเน้นชี้แจงถึงปัญหาการเลื่อนการเลือกตั้งในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตลอดกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเลื่อนเลือกตั้งไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 ครั้งนับจากปี 2558 ไม่นับรวมครั้งล่าสุดที่อาจเลื่อนไปยังวันที่ 24 มีนาคม นอกจากนี้ยังทำความเข้าใจระบบการเลือกตั้งที่เหลือเพียงบัตรใบเดียวและผู้สมัคร ส.ส.ต่างเขตต่างหมายเลข แม้อยู่ในพรรคเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจก่อนไปลงคะแนน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ลงพื้นที่มากนัก เพราะคนมีสีในเครื่องแบบคอยติดตามทำให้ประชาชนเดือดร้อน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จีดีพีสูงแต่ประชาชนจนลง ความจริงคือความเจ็บปวด ร้านค้าบอกว่าเศรษฐกิจแย่มาก ยึดอำนาจไม่ว่า แต่ไม่ดูแลประชาชนให้ดี คืนความสุขมาจะ 5 ปี แต่ไม่มีใครมีความสุข ครั้งนี้ต้องทำงานอย่างมาก เขามี 250 ส.ว.แต่งตั้งรออยู่แล้ว ถ้าออกไปเลือกตั้งน้อย ลุงอยู่ต่อแน่ ซึ่งหากปล่อยไว้จะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกอย่างน้อย 4-8 ปี เพื่อไทยจึงต้องชนะท่วม 250 ส.ว. การเลือกตั้งครั้งนี้ลองไม่ได้ มีแค่เลือกเพื่อจะอยู่กับลุง หรือไม่อยู่กับลุงเท่านั้น จึงขอให้เชื่อมั่นเพื่อไทยที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเรื่องยาเสพติดได้ดีทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะมีนโยบายหลักประกันรายได้ขั้นต่ำของประชาชนอย่างแน่นอน จึงขอให้มั่นใจว่าแม้ปัญหาใน 4-5 ปีที่ผ่านมาจะหมักหมมจนแก้ยาก แต่เพื่อไทยแก้ได้

“ปัญหาภาษีก็มีมาก อย่างการขายของออนไลน์ ลูกหลานของเราต้องโดนรีด ต่างจากอาลีบาบาบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่ได้รับการยกเว้น ก็ต้องแก้ เราจะใช้เงินน้อยกว่ารัฐบาลนี้ที่ใช้ไปกว่า 11.4 ล้านล้านบาท แต่จะใช้อย่างชาญฉลาดมากกว่า ส่วนบัตรคนจนก็แค่เยียวยาเศรษฐกิจที่ทำพัง ซึ่งเราทุกคนก็ไม่มีใครอยากเป็นคนจนตลอดชีวิต ต้องการทำมาหากินยืนบนขาตนเอง โดยตั้งแต่ไทยรักไทย เราไม่เคยแจกเงินฟรีๆ เช่น กองทุนหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ หนี้เสียน้อยกว่าธนาคาร เงินทุกบาทที่ลงไปต้องถึงคนส่วนใหญ่ เราจึงจะเรียกชุดนโยบายทางเศษฐกิจว่า โครงการยกระดับมาตรฐานรายได้ขั้นต่ำของประเทศ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

Featured