วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“หมอเลี้ยบ”ชี้เลื่อนเลือกตั้งอาจส่งผลเท่ากับไม่มีการเลือกตั้ง

On January 6, 2019

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้ง โดยโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า

เลื่อนเลือกตั้ง เท่ากับ (อาจ) ไม่มีเลือกตั้ง
………………………………………………..

1.เมื่อมีข่าวการเลื่อนเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 บางคนอาจหงุดหงิดไม่พอใจคนที่ออกมาคัดค้านอย่างกว้างขวางด้วย #เลื่อนแม่มึงสิ พร้อมกับบ่นว่า เลื่อนแค่นี้จะเป็นจะตายหรือไง

2.การเลื่อนไป 1 เดือนจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เหมือนเป็นเวลาสั้นๆ แต่เวลาเพียง 1 เดือนนี้แหละที่อาจทำให้ไม่มีการเลือกตั้งในปีนี้อีกเลย

3.ดูเป็นการมองโลกในแง่ร้าย แต่…ช่วยไม่ได้ ที่ผ่านมา 12 ปีนั้น เกินพอที่ทำให้การมองโลกในแง่ดีเปรียบเสมือนการหลอกตนเอง ไม่อยู่กับความเป็นจริง

4.12 ปีที่ผ่านมา มีรัฐประหาร 2 ครั้ง บอยคอตเลือกตั้ง 2 ครั้ง ยุบพรรคการเมือง 4 พรรค เลื่อนเลือกตั้งที่สัญญาไว้มาแล้ว 3 ครั้ง กำลังจะเลื่อนเป็นครั้งที่ 4

5.การเลื่อนเลือกตั้งไปอีก 1 เดือนนี้ มีนัยแอบแฝงหรือไม่ เพราะเชื่อว่ามีบางกลุ่ม บางพรรคไม่อยากเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง

6.การเลือกตั้งมีแพ้มีชนะ แต่เดิมพันในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงยิ่ง บทเรียนของมาเลเซียหลังการเลือกตั้งครั้งล่าสุดกำลังหลอกหลอนหลายคน

7.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 171 บัญญัติไว้ว่า

“ในวาระเริ่มแรกให้ตราพระราชกฤษฎีกากําหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกําหนดวันเลือกตั้งซึ่งต้องไม่ช้ากว่าหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีผลใช้บังคับ”

สรุปได้ง่ายๆว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 กำหนดให้

-ตราพระราชกฤษฎีกาฯภายในวันที่ 10 มีนาคม 2562
-กำหนดให้ “วันเลือกตั้ง” ไม่ช้ากว่าวันที่ 9 พฤษภาคม 2562

8.เห็นอย่างนี้…การกำหนดให้เลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็ทำได้สิ
ช้าก่อน…อย่าเพิ่งโล่งใจ ลองไปดูบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กัน

9.รัฐธรรมนูญแห่งราขอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 268 บัญญัติไว้ว่า

“ให้ดําเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญนี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญตามมาตรา 267 (1) (2) (3) และ (4) มีผลใช้บังคับแล้ว”

สรุปได้ง่ายๆว่า รัฐธรรมนูญฯกำหนดให้ “การเลือกตั้งแล้วเสร็จ” ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562

10.”การเลือกตั้งแล้วเสร็จ” ในรัฐธรรมนูญฯ ไม่เหมือนกับ “การกำหนดวันเลือกตั้ง” ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ ทั้งตัวข้อความและสาระสำคัญ

เพราะ “การเลือกตั้งแล้วเสร็จ” หมายถึงภารกิจของการดำเนินการเลือกตั้งทั้งหมดของคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้วเสร็จ ซึ่งกินความตั้งแต่การกำหนดวันเลือกตั้ง การจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรม จนถึงการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ด้วย

11.เมื่อมีความแตกต่างกันใน “ภารกิจ” เช่นนี้ ต้องยึดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้

12.เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องดำเนินการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 และด้วยเหตุที่ข้อกฎหมายกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วันหลังวันเลือกตั้ง วันเลือกตั้งจึงไม่ควรช้ากว่าวันที่ 11 มีนาคม 2562

13.การเสนอให้กำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 จึงสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญฯ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 และอาจมีผู้ไปร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ คณะกรรมการการเลือกตั้งถูกฟ้องร้องทั้งแพ่งและอาญา

14.หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ สภานิติบัญัติแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนด ตามบทบัญญัติในมาตรา 263 และ 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

15.หากศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาในการพิจารณายาวนาน อาจไม่มีการเลือกตั้งใหม่ในปีนี้ หรือหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ จะมีการเลือกตั้งใหม่อีกเมื่อไรไม่มีใครทราบได้ เพราะบทเฉพาะกาลไม่มีกำหนดเงื่อนเวลาในสถานการณ์จำลองนี้

16.ดังนั้น การเลื่อนเลือกตั้งอาจนำไปสู่การไม่มีเลือกตั้งไปอีกนาน


You must be logged in to post a comment Login