นโยบายตัดแต้ม

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 ม.ค. 62)

การนำเสนอนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่ให้เป็นที่ดินทองคำด้วยการแปลงเป็นโฉนดถือเป็นนโยบายที่แหลมคม แต่เป็นความแหลมคมที่อาจย้อนมาทิ่มแทงตัวเองมากกว่าทิ่มใส่คู่แข่งจากพรรคอื่น หากนโยบายนี้เสกคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำจริง ไฉนเลย “ลุงตู่” จะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ก่อนหน้านี้ลูกพรรคก็บ่นเหนื่อยอยู่แล้ว เจอนโยบายเสก ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเข้าไปคงได้เหนื่อยเพิ่มเป็น 2 เท่า มวยวัดออกหมัดสะเปะสะปะ ยิ่งยื้อเลือกตั้งนานกระแสยิ่งหด

ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักกิจการพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ณ ปัจจุบันมีพรรคการเมืองที่มีสถานะเป็นพรรคสมบูรณ์และทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่รวมทั้งสิ้น 104 พรรค

ทั้ง 104 พรรคหากจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องดำเนินการ 4 อย่างให้ครบถ้วนก่อนถึงวันประกาศรับสมัคร ส.ส. ประกอบด้วย

1.ต้องจัดให้มีทุนประเดิม 1,000,000 บาท

2.หาสมาชิกพรรคให้ได้ 500 คน พร้อมชำระเงินบำรุงพรรค

3.จัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อบังคับ คำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายพรรค ให้สอดคล้องกับกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.

4 จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารของพรรค

ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ดูทรงแล้วแม้จะมีพรรคการเมืองมากถึง 104 พรรค แต่คงมีพรรคที่พร้อมลงสนามเลือกตั้งไม่กี่พรรค

ที่สำคัญในจำนวนพรรคการเมืองที่พร้อมลงเลือกตั้ง หากแบ่งเป็นความพร้อมที่สมบูรณ์เต็ม 100% ก็คงมีแค่ 5-6 พรรค

แม้แต่พรรคพลังดูดน้องใหม่ที่ว่ากันมาว่ามาแรงนั้น เอาเข้าจริงนาทีนี้ก็ยังไม่พร้อม 100% สำหรับการเลือกตั้ง

ถึงกำหนดการเลือกตั้งจะถูกยื้อออกไปเพื่อเอื้อต่อการดูดอดีต ส.ส. เข้าพรรคเพิ่มเติม แม้จะพยายามเดินสายเปิดตัวผู้สมัคร เดินสายปราศรัยหาเสียง แต่ดูแล้วอย่างไรก็ไม่มีความพร้อม

ในคำคุยโอ่ที่ว่ากระแสตอบรับดี ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านอย่างอบอุ่นนั้น หากไม่หลอกตัวเองจนเกินไปก็น่าจะรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไร

แม้ตามภาพข่าวที่ปรากฏเวลาแกนนำพรรคลงพื้นที่จะมีประชาชนมาห้อมล้อมให้การต้อนรับ ตะโกนส่งเสียงเชียร์ แต่ทุกคนย่อมรู้แก่ใจว่าเป็นกองเชียร์จัดตั้ง เป็นพวกหัวคะแนนของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่ชวนกันมาต้อนรับ คนที่ตั้งใจเดินออกจากบ้านมาให้การต้อนรับหรือฟังการปราศรัยด้วยความบริสุทธิ์ใจแทบจะนับหัวได้

จึงเป็นที่มาของเสียงตัดพ้อจากอดีต ส.ส. บางคนที่ทิ้งพรรคเก่ามาอยู่ในชายคาพรรคใหม่ว่า “รู้งี้ไม่น่ามาเลย” เพราะลงพื้นที่แล้วเหนื่อยกว่าที่คิด เนื่องจากกระแสพรรคในพื้นที่แทบไม่มีสัญญาณตอบรับจากประชาชนเลย ต้องอาศัยความนิยมส่วนตัวที่มีอยู่เข้าสู้กับพรรคอื่น

ความเป็นจริงของกรณีนี้สะท้อนได้จากที่แกนนำต้องออกนโยบายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมามองพรรค แต่บางเรื่องก็เป็นดาบสองคมที่สร้างอันตรายให้ตัวเองพอๆกับเรียกความสนใจให้คนหันมามอง

เช่นนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่ให้เป็นที่ดินทองคำด้วยการแปลงเป็นโฉนด เพื่อให้เกษตรกรสามารถเอาไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินได้

นโยบายนี้ส่งผลดีหรือเสียมากกว่ากันดูได้ไม่ยาก แม้แต่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่พรรคหมายมั่นปั้นมือว่าจะเอาชื่อมาใส่ในบัญชีผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกเรทติ้งให้พรรคยังต้องโดดหนี

แถมพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการส่งโฆษกรัฐบาลออกมายืนยันว่าการที่ “ลุงตู่” ไม่เอาด้วยกับการเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่ให้เป็นที่ดินทองคำ แสดงให้เห็นว่า “บิ๊กตู่” ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองนี้ เพราะไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับนโยบายที่พรรคใช้หาเสียง แม้ในวันข้างหน้าจะถูกเชิญไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก็ขึ้นอยู่กับว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ

การที่ “ลุงตู่” โดดหนีย่อมแสดงให้เห็นว่านโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่เป็นโฉนด แม้จะถูกใจเกษตรกรที่ถือครองที่ดินอยู่ แต่ไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ

กรณีนี้ถือว่าเสียมากกว่าได้ เพราะถ้าพรรคยังยืนยันนโยบายนี้ “ลุงตู่” จะเอาหน้าที่ไหนไปสู้กับประชาชนหากถูกทาบทามมาแล้วตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯเมื่อไม่เห็นด้วยกับนโยบาย

ถ้านโยบายนี้ทำให้ “ลุงตู่” ไม่ตอบรับให้เอาชื่อมาใส่ในบัญชีผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯ พรรคเจ้าของนโยบายจะเอาอะไรไปหาเสียงกับประชาชน เพราะลำพังต่อให้ยอมเอาชื่อมาไว้ในบัญชี แต่หากวัดความนิยมส่วนตัวกับแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่นก็ถูกทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ลูกพรรคก็บ่นเหนื่อยอยู่แล้ว เจอนโยบายเสก ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเข้าไปคงได้เหนื่อยเพิ่มเป็น 2 เท่า มวยวัดออกหมัดสะเปะสะปะ ยิ่งยื้อเลือกตั้งนานกระแสยิ่งหด

You must be logged in to post a comment Login