น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ชะลอตัวลงหลังสหรัฐฯรายงานตัวเลข CPI ประจำเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศเป็นเรื่องที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทยอยพิจารณาการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในเดือน ม.ค. กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการงานระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท และภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของเดือนม.ค. 2562 มีแนวโน้มดีขึ้นจากการเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และการขยายมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA : Visa On Arrival)
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุนในช่วงนี้ ยังคงเป็นภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ ส่งผลลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯในอนาคตได้หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนทางอังกฤษ ล่าสุดนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตือนว่าอังกฤษอาจเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ หากรัฐสภาไม่โหวตสนับสนุนข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ผลการลงมติว่านางเมย์จะเป็นฝ่ายแพ้ และการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปของไทยยังไม่ชัดเจน
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันที่ 14 – 21 ม.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยประกาศงบปี 2561 และในวันที่ 15 ม.ค. รัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติต่อร่างข้อตกลงในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) วันที่ 16 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book (เช้าวันที่ 17 ม.ค.) วันที่ 17 ม.ค. อียู เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค. วันที่ 18 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,565 – 1,605 จุด โดยแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขยายเวลาให้ฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30 เม.ย.62 ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW รวมถึงหุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นช็อปช่วงตรุษจีน แนะนำ CPALL, MAKRO, BJC
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ติดตามการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษว่าจะทำอย่างไรต่อไปหากสภาโหวตไม่รับร่างข้อตกลง Brexitเนื่องจากจะทำให้ความเสี่ยงต่าง ๆ เปิดกว้างมากขึ้น เพราะนายกฯยืนกรานเส้นตายเดิมวันที่ 29 มี.ค.ในการออกจากสหภาพยุโรป และ EU ยืนกรานว่าจะไม่มีการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อตกลงใดๆ อีก ทางเลือกที่เป็นไปได้จึงเหลือแค่ ดำเนินการต่อไปแบบ no deal Brexit หรือ ยกเลิกขั้นตอนที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วกลับไปทำประชามติใหม่อีกครั้ง
ส่วนกราฟราคาทองคำมีแนวโน้มจะออกจากกรอบแกว่งตัวรูปสามเหลี่ยมใต้ระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในสัปดาห์นี้ โดยคาดหวังให้ทะลุขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวจากแรงหนุนของสกุลเงินดอลลาร์ที่ค่อนข้างอ่อนแรง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงอื่นเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค ทั้งกรณี shutdown ในสหรัฐฯ Brexit ในยุโรป และสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมชะลอตัวลง แต่ราคาทองคำในประเทศยังคงถูกกดดันให้ปรับขึ้นได้น้อยกว่าราคาตลาดโลกจากแนวโน้มเงินบาทที่ยังคงแกว่งในลักษณะแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แนะนำให้รอเล่น breakout follow ด้วยกลยุทธ์ swing long เมื่อทะลุแนว 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และ short เมื่อราคาไม่สามารถยืนในช่วงแนวรับ 1,280–1,285 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้
You must be logged in to post a comment Login