วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“อนุทิน”ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ ลั่น”หมูไม่กลัวน้ำร้อน”

On January 17, 2019

ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย นำทีมโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 350 เขต รวมถึง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 รายชื่อ และนโยบายพรรค โดยมีประชาชนชาวบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานกว่า 30,000 คน

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ได้มอบผ้าขาวม้าคาดเอวให้นายอนุทินเพื่อให้นำสู้ศึกเลือกตั้งให้ได้ชัยชนะในครั้งนี้ จากนั้นนายอนุทินได้กล่าวปราศรัยบนเวทีและได้เซลฟี่ภาพร่วมกับประชาชนที่มาร่วมงานด้วย และกล่าวตอนหนึ่งว่า ก่อนมาที่ จ.บุรีรัมย์ มีคนถามว่าทำไมต้องมาเปิดเวทีใหญ่ทั้งนโยบายและผู้สมัครทั่วประเทศที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคำตอบง่ายๆ เพราะพรรคมีความผูกพันแน่นแฟ้นกับ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากพรรคได้รวมตัวที่ จ.บุรีรัมย์ และเดินหน้าทำการเมืองด้วยกันภายใต้ชื่อ “ภูมิใจไทย” ซึ่ง จ.บุรีรัมย์เปรียบเสมือนบ้านตน เพราะเป็นบ้านของคนที่ตนนับถือเป็นแบบอย่างในการรักแผ่นดินเกิด รักประชาชน คือนายชัย ซึ่งมีเมตตา อดทน ส่วนตัวได้มาขอเป็นลูกคนที่ 3 ซึ่งก็รับเป็นลูก แต่ไม่รู้ว่ารักใครมากกว่าระหว่างตนกับลูกคนที่ 3 (เนวิน ชิดชอบ)

“ผมมีความรักพี่ชายสุดหัวใจ คือพี่เนวิน ชิดชอบ แม้หลายคนสงสัยว่าคบกันมาได้อย่างไร 10 กว่าปี เพราะเปรียบเหมือนพี่ชาย เป็นครูคอยชี้แนะ และบอกผมทุกวันว่าหากทำงานการเมืองให้รักประชาชนมากกว่ารักตัวเอง ดังนั้น จ.บุรีรัมย์จึงเป็นเหมือนบ้านผม บ้านเกิดพ่อ บ้านเกิดพี่ชาย และทำไมต้องมาที่บุรีรัมย์”

นายอนุทินกล่าวต่อว่า วันนี้ จ.บุรีรัมย์มีความเจริญเติบโตมาก เป็นเมืองที่นักลงทุน นักท่องเที่ยวทั่วโลก มาเยือนปีละ 3 ล้านคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้พรรคจะใช้ “บุรีรัมย์โมเดล” ไปสร้างความเจริญให้กับคนทั้งประเทศ และพัฒนาประชาชนให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น

“พรรคจะทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นไม่พอ แต่ต้องมีความสุข และทำให้บ้านเมืองไม่มีความแตกแยก ขัดแย้ง จะทำให้ได้ทั่วทั้งประเทศ จะได้เมืองไทยงดงามน่าอยู่กลับคืนมา ถ้าเลือกคนของพรรคเป็นผู้แทนของประชาชน เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ สิ่งที่พูดไปทั้งหมดจะเกิดขึ้นทุกพื้นที่เช่นเดียวกับ จ.บุรีรัมย์ และผู้สมัครพรรคมีความพร้อมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้อง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข หลุดพ้นความทุกข์ ถือเป็นหลักการที่พรรคต้องทำ”

นายอนุทินกล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคมี 4 แนวทางหลักสำคัญเพื่อทำงานให้บ้านเมืองคือ 1.แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ วันนี้พรรคประกาศเจตนารมณ์ “จะลดอำนาจ เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน” โดยพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นสิ่งแรก เพราะเข้าใจความต้องการของประชาชน รวมถึงผู้สมัครทุกคนต้องตั้งใจทำงานเรื่องนี้ ต้องมีจุดหมายเดียวกัน หากคนใดไม่ทำก็ไม่มีโอกาสได้ใส่เสื้อภูมิใจไทย 2.ไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะถือเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้า และทำให้ความสมานฉันท์ไม่มี ฉุดกระชากไม่ให้ประเทศเดินหน้า ทำให้ไม่มีกินมีใช้ พรรคจะทำให้ความขัดแย้งหมดไปจากประเทศ 3.ผู้สมัครมีความรู้ความสามารถ เพราะพรรคมีการคัดสรร เลือกคนดี คนทำงานเก่ง คนทำงานเป็น มารับใช้ประชาชนเพื่อให้ตัดสินใจ และ 4.พรรคเคารพกติกาและเลือกข้างมานานแล้ว โดยเลือกอยู่กับประชาชน พรรคไม่เคยเป็นตัวแทนใครหรือกลุ่มอำนาจใดนอกจากประชาชน และเลือกอยู่ข้างประเทศไทย โดยมีประชาชนเป็นผู้บังคับบัญชาพรรค และพรรคจะฟังคำสั่งจากประชาชนเท่านั้น พรรคจะอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง

“ผมขอฝากพรรคไว้ในหัวใจ ให้โอกาสได้เข้าไปรับใช้ และขอพลังจากประชาชนให้พวกผมมีความกล้าหาญเข้าไปทำลายข้อจำกัด ถ้าเลือกพรรคขอประกาศเป็นศัตรูกับความยากจน ซึ่งถือเป็นศัตรูหมายเลข 1 ความเหลื่อมล้ำในสังคม และขออาสาประชาชนเข้ามาทำลายทุกข้อจำกัดนี้ เพื่อลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน” หัวหน้าพรรคกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทินปราศรัยได้สั่งให้ลูกพรรคถอดแว่นกันแดดออก รวมถึงขอให้เลขาธิการพรรคเช็กว่าใครยังใส่อยู่ หากเห็นใครยังใส่แว่นกันแดดอยู่ก็คัดชื่อออกจากการเป็น ส.ส. “เพราะประชาชนยังไม่ใส่ และเราเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งผมก็มีทะเบียนบ้านอยู่ที่นี่”

จากนั้นเวลา 18.00 น. นายอนุทินขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งพร้อมว่าที่ผู้สมัคร และกล่าวว่า จะส่ง ส.ส.เขต 350 คน และบัญชีรายชื่อ 150 คน พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทย 375 เสียง เป็นพรรคอันดับ 1 ตนก็พร้อมเป็นนายกฯแล้ว

“มันต้องเป็นแล้ว หมูไม่กลัวน้ำร้อนแล้ว และผมจะทลายทุกข้อจำกัด เพื่อลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน” นายอนุทินกล่าว


You must be logged in to post a comment Login