วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มเชิงบวก

On January 21, 2019

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (21-25 ม.ค.) มีประเด็นสำคัญคือเรื่องการเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีน ได้มีการเผยเนื้อหาที่สำคัญที่สุดคือจีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯจากปี 2018 ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านเหรียญฯ เป็น 6.0 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2024 โดยสองฝ่ายจะมีการเจรจาครั้งต่อไปในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ KTBSTคาดว่าการเจรจาของทั้งประเทศจะจบลงด้วยดีในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงการส่งออกของไทยน่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้และเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น อีเล็คทรอนิคส์ เกษตรแปรรูป และชิ้นส่วนยานยนต์

ขณะที่ข้อตกลงของอังกฤษกับอียูในเรื่อง BRExit ที่จะกลับเข้าสภาฯอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.นี้ โอกาสที่จะยังไม่มีการอนุมติยังมีอยู่ หากเป็นเช่นนั้นจะมีผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกแต่ไม่มากนักเนื่องจากตลาดรับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตลาดเงินอาจจะมีผันผวน โดยเฉพาะเงินปอนด์และยูโร ส่วนปัญหางบประมาณสร้างกำแพงแนวชายแดนเม็กซิโกกับสหรัฐฯ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการต่อรองเพิ่มเงื่อนไขที่เรียกว่า “การขยายการคุ้มครองผู้อพยพเด็กที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย” หรือ “Dreamers in exchange” โดยเรื่องนี้ KTBST มองว่าเป็นประเด็นการเมืองที่จะจบลงด้วยการเจรจา แต่อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวนหากรุนแรง และจะมีผลมาถึงตลาดหุ้นไทยได้

ส่วนปัจจัยในประเทศเรื่องของกำหนดวันเลือกตั้งยังเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทย ล่าสุดรัฐบาลให้ข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ในสัปดาห์นี้ (21-25 ม.ค.) และกำหนดวันเลือกตั้งน่าจะประกาศภายในต้นสัปดาห์หน้า หากมีการเลือกตั้งภายในเดือน มี.ค. และเสร็จสิ้นไม่เกิน 9 พ.ค. ตลาดหุ้นจะตอบรับในทางบวก และกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองจะยุติลง ซึ่งนั่นจะทำให้ดัชนีฯ มีโอกาสกลับขึ้นไปที่ระดับ 1,600 จุด อีกครั้ง อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดไปจากนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง

ดังนั้นการลงทุนในสัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,620 จุด ตลาดมีแนวโน้มในทางบวกแม้จะมีความอ่อนไหวกับตัวแปรหลายตัว หากดัชนีฯกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้จะส่งผลบวกด้านจิตวิทยา โดยสัปดาห์นี้ KTBST ให้ความสนใจกับการเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ของนักลงทุน ได้แก่ PTT, AOT , CPALL, SCC, PTTEP รวมถึงที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น HANA , TOP, LH , VNT


You must be logged in to post a comment Login