วันนี้ (25 ม.ค. 61) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดบ้านกรมการพัฒนาชุมชนให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ประเด็น “อธิบดี พช. เล่าขานงาน พช. ก้าวย่างปี 2562” ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
![15623](https://www.lokwannee.com/stg/wp-content/uploads/2019/01/15623-300x200.jpg)
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้วางแนวทาง “ก้าวย่างกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2562” เพื่อการดำเนินงานไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางหลัก ได้แก่ “ก้าวย่างพื้นฐาน” จะเน้นการขับเคลื่อน “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อพัฒนาให้ชุมชนมีความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยการสร้างความ “มั่นคง” ผ่านกิจกรรมจิตอาสาในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงทั้งประเทศ “ทำความดีด้วยหัวใจ” การมีแผนชุมชนที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ การบริหารจัดการขยะ โดยร่วมมือกับหน่วยงานหลักขับเคลื่อนการแก้ปัญหาขยะอย่างจริงจัง การจัดทำบัญชีครัวเรือน เน้นไปที่การสร้างความเข้าใจให้ประชาชนรู้จักการกำหนดเป้าหมายในครัวเรือน ขณะที่การสร้างความ “มั่งคั่ง” จะส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพชุมชน โดนพิจารณาจากข้อมูลครัวเรือนตกเกณฑ์ พัฒนาอาชีพให้แก่คนกลุ่มนี้เพื่อให้เกิดรายได้ การพัฒนาหมู่บ้านท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และการส่งเสริมการออม ขณะที่การสร้างความ “ยั่งยืน” จะมุ่งเน้นการแก้ปัญหาครัวเรือนยากจนตามเป้าหมายของ UN การส่งเสริมหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และการสนับสนุนกองทุนสวัสดิการชุมชน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับคนในชุมชน โดยตัวชี้วัดที่แสดงผลสำเร็จในก้าวย่างพื้นฐานนี้คือ ความสุขมวลรวมของประชาชนที่เกิดขึ้น (GVH)![15624](https://www.lokwannee.com/stg/wp-content/uploads/2019/01/15624-300x200.jpg)
ขณะที่ “ก้าวย่างการพัฒนา” จะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มี “คุณภาพ มาตรฐาน ก้าวสู่ความเป็นสากล” โดย “คุณภาพ” คือ ถ้าเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์ต้องสะอาด ปลอดภัย No Foam ถ้าเป็นประเภทผ้า ผลิตภัณฑ์ต้องมีดีไซน์ทันสมัย Mix & Math มีบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ถ้าเป็นของที่ระลึก ต้องเล็ก ดี มีคุณภาพ ดู Inter เป็นที่ยอมรับ พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีโรงเรียน OTOP Academy สอนพื้นฐานการพัฒนา “มาตรฐาน” คือ ส่งเสริมความเป็นอัตลักษณ์ และมีมาตรฐานด้านต่าง ๆ อาทิ อย. มผช. GI การพัฒนาสินค้าด้วยวิทยาศาสตร์ เป็นต้น รวมไปถึงการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ OTOP ด้วย ส่วน “การก้าวสู่ความเป็นสากล” จะเข้มข้นขึ้นในการนำเสนอขยายโอกาสด้านการตลาดสินค้า OTOP ในตลาดต่างประเทศ อาทิ OTOP on board Modern trade e-Commerce ตลาดประชารัฐ อีกทั้งยังสนับสนุน “ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี” นำเสนอภาพความสำเร็จของโครงการที่ก่อให้เกิดผลดีต่อชุมชนและเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ส่วน “ก้าวย่างแห่งความยั่งยืน” คือแนวทางการพัฒนางานให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ทั้งการสร้างความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และเกิดนวัตกรรมในการทำงาน การดำเนินงานเกี่ยวกับบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (SE) เพื่อต่อยอดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี รวมถึงการส่งเสริมการตลาด ในรูปแบบ e-Commerce เพื่อขับเคลื่อนสู่เทคโนโลยียุคใหม่
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินงานชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เพิ่งเกิดขึ้นเป็นปีแรก นับว่าภาพรวมความสำเร็จอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจ เพราะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าในบางชุมชนยังมีปัญหาติดขัดอยู่บ้าง แต่กรมฯ ก็เร่งดำเนินการเพื่อให้ทุกชุมชนหมู่บ้านสามารถขับเคลื่อนโครงการนี้ได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยเฉพาะชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 50 ชุมชนต้นแบบระดับประเทศ และ 110 ชุมชนระดับจังหวัด ที่กรมฯ ได้ดำเนินการเชื่อมประสานทุกภาคส่วนในการต่อยอดให้ชุมชนเหล่านี้เกิดการพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางส่งเสริมการสร้างความสุขให้แก่ทุกชุมชนได้อย่างชัดเจน
ดังตัวอย่างความสำเร็จของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว อาทิ ชุมชนบ้านแพะ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ที่มีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 80 ครัวเรือน จากการจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ OTOP และกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีบ้านดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ที่เน้นการจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น และสินค้า OTOP มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางไปเยี่ยมชมทุกสัปดาห์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ บ้านป่าตาล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีการจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการที่พักโฮมสเตย์ รวมผู้รับประโยชน์ 46 ครัวเรือน ส่วนที่บ้านแม่แจ๋ม อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีรายได้เกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ OTOP ร้านค้าชุมชน บริการที่พักโฮมสเตย์ และการให้บริการต่าง ๆ ในชุมชน มีผู้ได้รับประโยชน์มากถึง 181 ครัวเรือน
นอกจากนี้ กรมการพัฒนาชุมชนอยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) หรือธุรกิจการจัดประชุมและแสดงนิทรรศการให้เป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจ บนพื้นฐานความคิดสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรม โดยเชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้าร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อนำเสนอสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
“การทำงานของบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชนในขณะนี้เน้นเรื่อง “การทำงานเป็นทีมอย่างมีความสุข” โดยจะต่อยอดการดำเนินงานของตลาดประชารัฐ และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งกรมฯได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล ให้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานดังกล่าวที่สามารถก่อให้เกิดการกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อบำรุงสุขให้แก่ประชาชนทุกชุมชนหมู่บ้าน นอกจากนี้ เรามีบุคลากรของกรมที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านในชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศ และทุกคนพร้อมยืนเคียงข้างและก้าวเดินไปกับประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัว/ชุมชนได้อย่างยั่งยืน เพราะความสุขของประชาชน คือเป้าหมายสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่น
You must be logged in to post a comment Login