วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“เพื่อไทย”เปิดตัว”ทีมเพื่อไทย”กอบกู้บ้านเมืองศก.-นำสงบสุขกลับคืน

On January 28, 2019

ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดสัมมนาพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค ตลอดถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศร่วมประชุมกันพร้อมเพรียง

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค ขึ้นกล่าวทิศทางและยุทธศาสตร์ของพรรคว่า กว่า 2 เดือนที่มีโอกาสลงพื้นที่ พบว่าประชาชนต่างสะท้อนปัญหาเหมือนกันคือ เศรษฐกิจแย่ และหนี้สินเพิ่มขึ้น 4 ปีที่พี่น้องประชาชนต้องทนกับความทุกข์อย่างมาก 28 ปีที่ตนทำการเมืองมา ไม่มีครั้งไหนที่ประชาชนรู้สึกว่าขาดที่พึ่งขนาดนี้ พวกเขารอคอยที่จะให้พวกเราไปช่วยเขาออกจากความทุกข์ ดังนั้น วันที่ 24 มีนาคมนี้ นอกจากจะเป็นวันสำคัญของพวกเราแล้ว ยังเป็นวันที่ประชาชนได้ก้าวออกจากทุกข์ครั้งนี้ ขอเรียนพี่น้องชาวเพื่อไทย ตลอดเวลาที่บอกประชาชนว่าเศรษฐกิจไม่ดี ปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ดียิ่งกว่าเดิม ดังนั้น เราต้องแข็งแรงไปสู้งานหนักให้ประชาชน วันนี้พรรคการเมืองเกิดขึ้นหลายพรรค แต่สุดท้ายคือ 2 ขั้วเท่านั้น คือขั้วที่ตั้งขึ้นสืบทอดอำนาจเผด็จการ และขั้วตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาธิปไตย วันนี้เราไม่ได้อยู่สงครามโลกที่ใช้รถถังไปสู้กัน แต่เราอยู่สงครามการค้า เราจึงต้องออกไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ปีนี้เศรษฐกิจจะแย่มาก ธนาคารโลกยืนยันว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในข่วงขาลง ถ้าเราได้ผู้เป็นรัฐบาลไม่เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ คนไทยจะทุกข์มากขึ้น อยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกรัฐบาลที่เชี่ยวชาญด้านการทหารหรือรัฐบาลที่เชี่ยวชาญการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งแต่พรรคไทยรักไทยที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เคยทำสำเร็จมาทุกครั้ง ทุกครั้งเราทำเศรษฐกิจดีขึ้นทุกครั้ง มีความสุข และกระเป๋าตุงทุกครั้ง

ทั้งนี้ แม้วันนี้เราจะประสบกับปัญหาหนัก แต่เชื่อว่าทีมเพื่อไทยเราจะใช้เวลาไม่นาน เพราะไม่ยากสำหรับพรรคเพื่อไทย เราจะเร่งสร้างรายได้ให้ประชาชนกลับมากระเป๋าตุง โดยเราเพิ่มพลังให้คนไทย 5 ด้านคือ 1.เพิ่มพลังเกษตรกรไทย ด้วยการขายสินค้าเกษตรราคาดี ถึงเวลาเกษตรกรจะกำหนดราคาพืชผลด้วยตัวเอง 2.พลังเอสเอ็มอี ที่พรรคได้เริ่มขึ้น แต่วันนี้พลังเอสเอ็มอีกำลังหมดแรงเหมือนพลังเกษตรกร เราจะเพิ่มพลังเอสเอ็มอีให้มีความพร้อมบุกตลาดโลกด้วยเทคโนโลยี 3.เพิ่มพลังการส่งออก ด้วยความเชี่ยวชาญเวทีโลก เราเป็นหนึ่งไม่รองใคร ความสามารถการเจรจาเอฟทีเอเริ่มต้นในยุคคนทำงานพรรคเพื่อไทย 4.พลังรายได้จากการท่องเที่ยว เราต้องดึงเงินทั่วโลกกระจายรายได้ทุกจังหวัด โดยไม่ต้องรอโครงสร้างพื้นฐาน การเข้ามาจะกระจายสู่ชุมชนทุกจังหวัด ให้เรือล่มเพียงลำเดียวนักท่องเที่ยวหายหมดทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์สึนามิเราทำให้ประชาชนเชื่อมั่นมาแล้ว เราจะสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา และ 5.เพิ่มพลังคนรุ่นใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ทั่วประเทศ ซึ่ง 5 พลังจะขับเคลื่อนกำลังซื้อประเทศ ตนเคยบอกว่าเศรษฐกิจไทยต้องเพิ่มกำลังซื้อ โดยให้กับคนตัวเล็กทุกคนให้ได้ และต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย 4-5 ปีเกิดการถดถอย เราจะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย และสิ้นหวังต่อไป

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เราจะทำ 3 ด้านความแข็งแกร่งคือ 1.การพัฒนาคนต้องเป็นวาระแห่งชาติ เป็นพลเมืองโลก เด็กไทยต้องเป็นพลังขับเคลื่อนให้ได้ 2.พัฒนาสุขภาพดีถ้วนหน้า วันนี้เรากำลังเข้าสู่เฟสสองการทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้คนไทยเป็นกำลังผลิตของประเทศ และ 3.พัฒนาสร้างโครงข่ายคมนาคมและระบบน้ำ เราได้รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งมาทำเรื่องนี้คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย

“พรรคเพื่อไทยจะนำพาประเทศไทยสู่ความสงบสุข ไม่ใช่ความสงบสุขแบบ 4-5 ปีที่ไม่มีเสรีภาพ ความสงบสุขไร้คุณภาพกระเป๋าแฟบ แต่พรรคเพื่อไทยจะสร้างความสงบสุขบนเศรษฐกิจที่ดี มีบางพรรคการเมืองหรือผู้มีอำนาจบอกปล่อยเลือกตั้งเลือกพรรคการเมืองเดี๋ยวบ้านเมืองไม่สงบ ความไม่สงบที่เต็มด้วยความทุกข์ กระเป๋าแฟบเป็นทุกข์ พรรคเพื่อไทยจะสร้างความสุขให้อนาคตประเทศ ทั้งนี้ ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยจะเกิดขึ้นได้ด้วยขุนพลของเราที่ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่งที่หวัง เชื่อว่าทุกท่านจะทำให้เกิดความสำเร็จ นำชัยชนะมาสู่ประชาชน ขอให้อดีต ส.ส. มีขวัญกำลังใจ และ ส.ส. ใหม่ขอให้ร่วมกันสู้ ชัยชนะจะไม่ไกลเกินเอื้อม วันที่ 24 มีนาคม คือวันแห่งชัยชนะของประชาชน หมดเวลาแล้วสำหรับรถถัง ได้เวลาแล้วของผู้บริหารมืออาชีพ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

จากนั้นมีการเปิดตัวขุนพลเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เราต้องทำ 6 ยุทธศาสตร์คือ 1.ไทยทำ ต้องสร้างแบรนด์ไทยแลนด์ให้เข้มแข็ง สร้างแบรนด์เมดอินไทยแลนด์ 2.ไทยทันสมัย วันนี้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีมาก แต่ต้องลดขั้นตอนติดขัดของระบบราชการ 3.ไทยเท่าเทียม ต้องกระจายอำนาจท้องถิ่น โดยเฉพาะการศึกษา การสาธารณสุขต้องมี จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี 4.ไทยเชื่อมไทย พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงทั่วประเทศ 5.ไทยเชื่อมโลก ต้องเชื่อมความสัมพันธ์ การเจรจาการค้าที่ประเทศหยุดหายไป ต้องเจรจาทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศต้องเก่งเจรจาการค้า เอาคนเก่งคนไทยกลับมาที่ประเทศไทย สร้างงานที่มีคุณภาพสูงให้คนไทย และ 6.ไทยยั่งยืน ให้เกิดความโปร่งใสในระบบราชการบริหารประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาสิ่งแวดล้อม จัดการมลพิษ


You must be logged in to post a comment Login