วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ตายผ่อนส่ง

On January 31, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 ม.ค. 62)

การเปิดตัวเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่สู้อุตส่าห์ยื้อเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม แต่ดูเหมือนว่าการเปิดตัวพร้อมปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นขนาดเล็กจะไม่ใช่ไทม์มิ่งที่ดี แม้รัฐบาลทหาร คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไข แต่เรื่องนี้แก้ไม่ง่าย และมีแนวโน้มว่ายิ่งแก้ยิ่งทำให้เสียคะแนน ทุกมาตรการที่งัดมาใช้จะถูกมองว่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่สำคัญทุกมาตรการจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าสถานการณ์ฝุ่นยังทรงตัวในระดับนี้ยาวไปถึงวันเลือกตั้ง ฝุ่นเม็ดเล็กๆจะฉุดคะแนนพรรคพลังประชารัฐและ “ทั่นผู้นำ” แน่นอน ฝุ่นยิ่งอยู่นานยิ่งเหมือนตายผ่อนส่ง รอประชาชนประชุมเพลิงพร้อมกันวันที่ 24 มีนาคม

การซื้อเวลาไม่ยอมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อสร้างกระแสให้คนสนใจ แม้จะประสบความสำเร็จ ทำให้ตัวเองอยู่ในกระแสอย่างที่ต้องการ เพราะมีคนพูดถึงและถูกตั้งคำถามผ่านสื่อทุกวัน

แต่เข้าขั้นเป็นการสร้างความสนใจที่ไร้ประโยชน์

ทั้งนี้เพราะคำตอบสุดท้ายไม่มีอะไรน่าลุ้น เหมือนไฮโลเปิดถ้วยแทงที่รู้แต้มดีอยู่แล้วว่าจะออกอะไร

ไม่ต่างจากการยื้อเวลาลาออกจากตำแหน่งของ 4 รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการใช้การลาออกสร้างเครดิตว่าเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่เคยมีนักเลือกตั้งคนไหนทำมาก่อน

แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทั้งก่อนและหลังออกจากตำแหน่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น การทิ้งตำแหน่งเพื่อเดินบนถนนการเมืองเพื่อหวังใช้เป็นเครดิตยกระดับความนิยมชมชอบไม่เกิดผลอย่างที่ต้องการ

ถึงตอนนี้อาจนึกเสียดายด้วยซ้ำว่าไม่น่าลาออก

ย้อนมาที่ “ทั่นผู้นำ” ไม่ว่าจะเปิดตัวลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีวันไหนถือว่าไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม

ไม่เหมาะสมเพราะกำลังอยู่ในสภาวะฝีแตก

การปราบปรามคนโกงที่ชูเป็นนโยบายหลักเพื่อหวังเรียกความนิยม และหวังทาสีนักการเมืองให้ประชาชนเห็นว่าเป็นพวกที่แสวงหาอำนาจเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ที่ตอนแรกดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี

แต่ยิ่งนานไปของกลับไหลเข้าตัว

กว่า 5 ปีที่นั่งทับอำนาจ ดัชนีความโปร่งใสที่จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) มีแต่ตกต่ำลง

ผลการประกาศค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2018 ไทยตกไปอยู่ในอันดับที่ 99 ของโลก จากทั้งหมด 180 ชาติ จากที่เคยอยู่อันดับที่ 96 ในปีที่แล้ว มีคะแนนความโปร่งใสเพียง 36 แต้ม จากคะแนนเต็ม 100

ทำให้ภาพการต่อต้านการทุจริตของรัฐบาลทหาร คสช. ไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ที่แย่ที่สุดในตอนนี้คือปัญหาเรื่องมลพิษในอากาศจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม

แม้รัฐบาลทหาร คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไข

แต่เรื่องนี้แก้ไม่ง่าย และมีแนวโน้มว่ายิ่งแก้ยิ่งทำให้เสียคะแนน เพราะทุกมาตรการที่ออกมาตอนนี้และที่จะตามออกมาในอนาคตจะถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ที่สำคัญทุกมาตรการจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม แค่สั่งปิดโรงเรียนก็แย่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าจะห้ามไม่ให้ขับรถคนเดียว ต้องมีคนอื่นนั่งมาด้วย เพื่อหวังลดจำนวนรถบนถนน หรือการให้สลับใช้แบบวันคู่วันคี่

ถ้าสถานการณ์ฝุ่นยังทรงตัวในระดับนี้ยาวไปถึงวันเลือกตั้ง และสื่อหลักสื่อรองยังประโคมข่าวผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ปัญหาฝุ่นเม็ดเล็กๆจะฉุดคะแนนพรรคพลังประชารัฐและ “ทั่นผู้นำ” แน่นอน

แปลกแต่จริง ฝุ่นที่ทุกคนทุกพรรคสูดเข้าปอดเหมือนกัน แต่ผลกระทบกลับไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ “ทั่นผู้นำ” กับพรรคพลังประชารัฐ สถานการณ์ฝุ่นยิ่งอยู่นานยิ่งเหมือนตายผ่อนส่ง รอประชาชนประชุมเพลิงพร้อมกันวันที่ 24 มีนาคม


You must be logged in to post a comment Login