วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“บิ๊กตู่”ตื้นตัน พปชร.ให้เกียรติบอกยังมีเวลาขอคิดดูก่อน

On February 1, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 4 แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ รุจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค  ได้เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล พร้อมถือแฟ้มนโยบายพรรคและหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอุตตม กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ดักรอด้านหน้าทำเนียบเพียงสั้นๆ ว่า เป็นสินสอดที่มาสู่ขอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้มาอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ซึ่งแฟ้มที่นำมาด้วยนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร 

ก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบปะกับนายกรัฐมนตรี ภายในห้องสีม่วง โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวทักทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้ท่าทางเป็นนักการเมืองกันเต็มตัวเลยนะดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากวันนั้นที่มาลาออก และในการประชุม ครม.ก็หายกันไป 4 คน ก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะทำงานร่วมกันมาตลอด และพวกท่านก็รู้ว่าจากนี้ต้องทำอย่างไร และวันนี้ก็ไปทำงานการเมืองกันแล้ว ก็ต้องทำกันเอง ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่รัฐบาลแยกส่วนกันให้ได้ ตนพร้อมจะพบปะพูดคุยไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม อะไรคุยกันได้อะไรคุยกันไม่ได้ ก็อยากจะขอร้องทุกพรรค ถ้าต่างคนต่างพูดกันออกมามันก็จะเกิดความไขว้เขวกันไปหมด ปัญหาก็จะตามมา แล้วรัฐบาลหน้าก็จะเกิดปัญหาอีก ทำงานกันไม่ได้ ตนก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก ตนคาดหวัง ทุกพรรคการเมืองในเรื่องการสร้างความปรองดอง เป็นพรรคแห่งความสมานฉันท์และความสามัคคี ทุกคนก็สามารถพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐได้

ทั้งนี้การหาเสียงก็ขอระวังกันหน่อย เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลมาก่อน มันอาจจะกระทบกระทั่งกันได้ ก็ขอให้พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในอนาคต เราต้องรู้ว่าวันนี้บ้านเมืองเราอยู่ตรงไหนและควรเดินไปทิศทางใด ต้องช่วยแก้ไขกันรัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันคิดและหาวิธีการที่เหมาะสม อย่าไปบอกว่าทำอย่างนี้ได้เลยมันอันตราย การแก้ไขปัญหาเราจะทำทีเดียวไม่ได้มันต้องดูในภาพรวม เมื่อถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมพูดไปเสียนานมาทำอะไรกัน คุยซะเพลิน”

จากนั้นนายอุตตม ได้ยื่นหนังสือนโยบายพรรคพลังประชารัฐให้กับพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกล่าวว่ามีนโยบายเป็นรูปธรรมมากกว่าและมีเรื่องการปฏิรูปด้วย ในนามของพรรคพลังประชารัฐ อยากเชิญท่านนายกฯ และขอเสนอนโยบายของพรรคให้ท่านได้พิจารณา ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดดูนโยบายในเอกสารทันที พร้อมสอบถามว่าวันนี้พรรคพลังประชารัฐได้คุยกับพรรคอื่นๆบ้างหรือไม่ เขาทำแบบที่พรรคพลังประชารัฐทำหรือเปล่า 

นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้เริ่มแต่มีแนวคิดดังกล่าว ทั้งนี้นายสนธิรัตน์กล่าวยืนยันว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นรูปธรรมที่สุดและคิดว่าตรงกับสิ่งที่นายกฯคิด จึงได้มาเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามกลับไปทั้ง 4 คนว่า “มั่นใจแล้วนะ” ซึ่งทั้ง 4 คนตอบว่า “มั่นใจ” พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า ตื้นตัน ขอบคุณทุกคน กก.บห.และสมาชิกพรรคที่ให้เกียรติ ตนจะรับไว้พิจารณา และยังมีเวลาอีกหลายวันอยู่ ได้ถึงวันที่ ‪8 ก.พ.‬ใช่ไหม ถ้าตนตัดสินใจอย่างไรจะตอบกลับไป ขณะเดียวกันหลายพรรคก็มีการพูดจา ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนใครจะมาพบตนก็อนุญาตให้พบได้ ขอบคุณ 

จากนั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้ขอให้สื่อมวลชนออกจากห้อง ก่อนที่ทั้งหมดจะพูดคุยกันต่อ โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 17.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่อดีต 4 รัฐมนตรีจะออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

จากนั้น นายอุตตม ให้สัมภาษณ์ ว่า บรรยากาศการพูดคุยวันนี้ดีมาก เรานำเอกสารสรุปนโยบายและเอกสารความเป็นมาของพรรคมาเสนอให้นายกฯ ประกอบการพิจาณา ซึ่งนายกฯ รับเรื่องไว้และได้เปิดนโยบายดู พร้อมบอกว่าขอไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ท่านพร้อมก็จะให้คำตอบ ซึ่งมีเวลาถึงวันที่ 8 ก.พ. ทั้งนี้นายกฯ ฝากประเด็นสำคัญคือ การทำการเมืองขอให้สร้างสรรค์ เน้นการปรองดอง การแข่งขันย่อมมีเกือบทุกพรรค แต่อยากเห็นการทำการเมืองของทุกพรรคเน้นประโยชน์ของประชาชนสูงสุด แข่งขันกันในกฎเกณฑ์กติกา

เมื่อถามว่าฟังแนวโน้มแล้วคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราตอบในส่วนของนายกฯ ไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราคาดว่านายกฯ จะพิจารณารับคำเชิญของพรรค เมื่อถามต่อว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับเทียบเชิญในบัญชีนายกฯ เราจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอุตตม กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดว่านายกฯ จะไม่รับ พรรคมีความพร้อมสำหรับทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้จะให้ไปพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรตินายกฯ พิจารณา

เมื่อถามถึงเสียงท้วงติงที่นายกฯใช้สถานที่ราชการต้อนรับทั้ง 4 คนนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เราได้ประสานกับคณะทำงานของนายกฯและได้รับแจ้งให้เข้าพบเพื่อเทียบเชิญที่สถานที่ทำงาน หลังเวลาราชการ ทั้งนี้ นายกยังได้ฝากบอก ว่าพร้อมต้อนรับทุกพรรค ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคการเมืองใดมีความประสงค์จะมาพบเพื่อเทียบเชิญ นายกฯพร้อมต้อนรับ เช่นเดียวกับพรรคเรา

เมื่อถามอีกว่าหลังจากนี้จะมีการนัด พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหาหรืออีกเรื่องนโยบายอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หากนายกฯสนใจ ต้องการลงในรายละเอียดของนโยบายพรรค เราก็พร้อมนำเสนอ  ส่วนระหว่างนี้ที่รอการตอบรับพรรคจะนำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงหรือไม่นั้น เรื่องนี้คงไม่ทำอย่างนั้นในช่วงนี้ เราจะไม่ใช้ชื่อของท่านในการหาเสียงในตอนนี้แน่นอน

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงคิดว่าชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้นั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมวพาณิชย์ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า การเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของพรรค เราต้องดูว่าบุคคลผู้นั้น เหมาะสมกับบริบทการเมืองปัจจุบันหรือไม่ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้รับศรัทธาจากประชาชน และมีความซื่อสัตย์สุจริตที่พิสูจน์ได้หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน จึงเป็นเหตุผลที่พรรคนำเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์


You must be logged in to post a comment Login