วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วิกฤตฝุ่น-วิกฤตผู้นำ?

On February 4, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4 ก.พ. 62)

วิกฤตฝุ่นพิษขณะนี้ไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ในหลายจังหวัดก็มีปัญหา เมื่อประชาชนตื่นตัวและมีการตรวจคุณภาพอากาศอย่างจริงจัง

องค์การอนามัยโลกเตือนว่า PM2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ ขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองได้ จึงสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมเข้าสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ทำให้เสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็ง

ประเทศที่มีระดับมลพิษสูงมากๆ เช่น จีน อินเดีย บังกลาเทศ และเนปาล องค์การอนามัยโลกให้ตั้งเป้าลดมลพิษเป็นลำดับขั้นอย่างชัดเจน เช่น ขั้นแรกตั้งเป้าค่าเฉลี่ยรายปีให้ไม่เกิน 35 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ระยะกลางไม่เกิน 25, 15 และ 10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ

ภาครัฐจัดสรรงบประมาณและมีมาตรการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ต้องประกาศดัชนีคุณภาพอากาศรายวันให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพน้อยที่สุด ต้องไม่ตั้งค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงเสมือนลวงประชาชนให้เข้าใจผิดว่ายังไม่เป็นอันตราย

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้คือ การแก้ปัญหาของรัฐบาลทหารที่ล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ระบุชัดเจนถึงต้นเหตุของฝุ่นพิษในแต่ละพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด พูดเรื่อยเปื่อย “จับแพะชนแกะ” พยายามแสดงความเด็ดขาด แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำ “เก่งแต่บ่น” เหมือนการแก้ปัญหาประเทศที่ผ่านมา

“ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตฝุ่นเขียนคำร้องเพื่อยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ “ทั่นผู้นำ” ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 9 พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535

วิกฤตบางครั้งทำให้เกิด “ผู้นำ” แต่หลายครั้งก็ดับอนาคต “ผู้นำ” โดยเฉพาะ “ผู้นำ” หลงอำนาจ หลงตัวเอง คิดเองเออเองว่าเป็น “พระเอกขี่ม้าขาว”!!


You must be logged in to post a comment Login