- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
มวยคนละเชิง
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 7 ก.พ. 62)
การรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมพ่วงบัญชีชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทุกพรรคมีความชัดเจนแล้ว เหลือเพียงพรรคพลังประชารัฐที่ยังรอการตอบรับอย่างเป็นทางการจาก “ทั่นผู้นำ” ที่ใช้กลยุทธ์ยึกยักดึงความสนใจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และคงดึงเวลาไปจนถึงนาทีสุดท้าย ต่างจากคู่แข่งที่โดดเด่นขึ้นมาอย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่ไม่พูดพล่ามทำเพลง ไม่มีโหมโรง ถึงเวลาโดดขึ้นเวทีประกาศความชัดเจนทันที เปรียบเหมือนมวยคนละเชิง แม้ยังไม่ทันได้ประหมัด แค่เดินออกจากมุมก็ราศีจับต่างกัน
รับเทียบเชิญไปพิจารณาแล้วหลายวัน แต่ “ทั่นผู้นำ” ก็ยังไม่ตอบรับอย่างเป็นทางการว่าจะเข้าร่วมวงไพบูลย์ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
เช่นเดียวกับมือเศรษฐกิจรัฐบาลทหาร คสช. อย่าง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่รับเทียบเชิญไปแล้วแต่ยังไม่ตอบรับเช่นเดียวกัน
ทั้ง “ทั่นผู้นำ” และ ดร.สมคิดเหลือเวลาอีกวันเดียวสำหรับการตัดสินใจ เพราะพรรคพลังประชารัฐต้องเอาบัญชีชื่อผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้
ในทางการเมืองร้อยทั้งร้อยเชื่อว่า “ทั่นผู้นำ” ตอบรับแน่ แต่ที่ทำยึกยักก็เพื่อให้เป็นกระแสถูกพูดถึงเท่านั้น ส่วน ดร.สมคิดนั้นถือว่า 50/50 ซึ่งแน่นอนว่าหาก ดร.สมคิดไม่ตอบรับคำเชิญไม่มีผลกระทบต่อพรรคพลังประชารัฐเท่า “ทั่นผู้นำ” เปลี่ยนใจไปรอลุ้นเทียบเชิญหลังเลือกตั้ง
ข้ามมาที่พรรคเพื่อไทย ท่าทียึกยักของ “ทั่นผู้นำ” ช่างต่างอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีหนักแน่นชัดเจนของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่เปิดตัวทำงานการเมืองเต็มตัวจนมีชื่อไปอยู่ในทำเนียบผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯของพรรค แถมยังแสดงสปิริตไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะรู้ตัวเองว่าไม่ถนัดงานนิติบัญญัติ เปิดทางให้คนอื่นในพรรคที่มีความถนัดกว่า
การแสดงสปิริตครั้งนี้เชื่อว่าทำให้นายชัชชาติได้รับการยอมรับจากคนในพรรคเพื่อไทยมากขึ้น และมีความเป็นเพื่อไทยเต็มตัวมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีบางคนบางกลุ่มไม่ค่อยชอบหน้าเพราะรู้สึกว่าไม่เต็มที่กับพรรค ออกไปทำงานเอกชนหลังรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกยึดอำนาจ
“ลักษณะเด่นของพรรคเพื่อไทยคือ เราไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ผมเองก็ไม่ต้องลงทุกตำแหน่ง เราลงในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นประโยชน์กับประเทศ ในด้านนิติบัญญัติ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ผมคิดว่าจำนวนก็จะน้อยลงด้วยตามกติกาใหม่ ซึ่งเราก็มีคนเก่งๆด้านกฎหมายเยอะเลย คนที่เก่งด้านกฎหมายก็ควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม นี่คือการแบ่งหน้าที่เพื่อให้สอดประสานกัน การที่ผมไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ไม่ได้มีนัยอะไรเลยครับ ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งอะไรกัน ยืนยันว่าเป็นทีมเวิร์ค เป็นการจัดการไปตามระเบียบ และยืนยันว่ายังเดินหน้า ไม่มีถอย ไม่มีท้อ ทุกอย่างเหมือนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์” (นายชัชชาติให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่พรรคเพื่อไทย 6 ก.พ. 62)
เมื่อเทียบฟอร์มผู้ท้าชิงนายกฯที่คนหนึ่งใช้ความยึกยักจะเปิดตัวไม่เปิดตัวเป็นประเด็นเรียกความสนใจมาอย่างยาวนานหลายเดือน เรียกว่าดึงจนนาทีสุดท้าย กับอีกคนหนึ่งที่ไม่พูดพล่ามทำเพลง ไม่มีโหมโรง ถึงเวลาโดดขึ้นเวทีประกาศความชัดเจนทันที
เหมือนมวยคนละเชิง ยังไม่ทันได้ประหมัด แค่เดินออกจากมุมก็ราศีจับต่างกัน
You must be logged in to post a comment Login