- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
มองข้ามช็อต
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 11 ก.พ. 62)
หลังเสียงฮือฮาในรายชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติก็เกิดคำถามว่าการเมืองไทยจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ที่แน่ๆคือด้วยชื่อชั้นบารมีที่เปิดออกมาไม่ทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงจากที่ควรจะเป็นมากมายนัก เรื่องที่จะเกิดแลนด์สไลด์บอกเลยว่าไม่มี แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนไปคือบรรยากาศการหาเสียงที่คงจะซอฟต์ลง และบรรยากาศในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาที่เดิมคาดว่าจะสู้กันดุเดือดมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ส่วนพรรคที่รับผลกระทบเต็มๆจากเกมการเมืองนี้คือประชาธิปัตย์ ที่เคยแอบหวังว่าจะเป็น “ตาอยู่” คว้าพุงปลาไปกินคงต้องร้องเพลงรอต่อไป
ถ้าถามว่าฮือฮาไหมกับกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติเสนอรายชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพียงชื่อเดียว
ก็ต้องยอมรับว่าฮือฮา
เพราะทันทีที่เปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกฝ่ายหลายแง่มุม
ถ้าถามว่าหลังปิดหีบเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 แล้วผลจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือไม่
ก็ต้องตอบว่ามีทั้งส่วนที่เป็นไปได้และส่วนที่ (อาจ) เป็นไปไม่ได้
ในส่วนที่เป็นไปได้ที่พอนึกภาพออกตอนนี้คือ หลังเลือกแม้จะมีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบบ้างตามปรกติ แต่ภาพรวมอาจไม่วุ่นวายอย่างที่วิตกกังวลกัน ไม่ถึงขั้นเปิดประชุมสภาไม่ได้
ในการหาเสียงเลือกตั้ง การใช้ hate speech กล่าวหากันน่าจะเบาบางลง
อย่างที่สองที่น่าจะเป็นไปได้คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาน่าจะเกิดขึ้นเพียงแค่รอบเดียว หรือเต็มที่ไม่เกิน 2 รอบ และจะรู้ผลกันโดยใช้เสียง ส.ส. เท่านั้น ไม่ถึงกับต้องใช้เสียง ส.ว. 250 เสียง ที่ คสช. จะแต่งตั้งรอไว้ล่วงหน้าเข้ามาร่วมโหวตด้วย
หลักๆคือชื่อและบารมีของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯน่าจะมีส่วนทำให้เกิดการเกรงใจกันในหมู่นักการเมืองมากขึ้น
สำหรับส่วนที่ไม่น่าส่งผลอะไรมาก ที่ชัดเจนที่สุดคือจะไม่ส่งผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง
แม้จะมีชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่จะไม่ทำให้พรรคไทยรักษาชาติได้คะแนนเสียงมากกว่าที่ควรจะเป็น
ยิ่งถ้าหวังจะให้เกิดแลนด์สไลด์ ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้นจนสามารถตั้งรัฐบาลได้พรรคเดียวนั้นลืมไปได้เลย เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นแน่
ทั้งนี้เพราะการเมืองที่ประชาชนแบ่งออกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจนนั้น ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจคนที่เลือกข้างแล้วได้
คนที่ตัดสินใจแล้ว เลือกข้างแล้ว จะกาแบบเดิม
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เลือกที่จะเดินหน้าลุยต่อ เพราะประตูแห่งโอกาสที่จะกลับเข้าทำเนียบรัฐบาลรอบ 2 ยังไม่ปิดตาย เพียงแต่จะยากขึ้นกว่าที่เคยคิดไว้
อุปสรรคที่จะขวาง “ลุงตู่” ไม่ให้กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่คู่ท้าชิงตำแหน่งนายกฯจากพรรคไทยรักษาชาติ
แต่เป็นการรวมเสียงจากพรรคการเมืองอื่นให้มาสนับสนุนตัวเอง
เดิมทีด้วยอำนาจที่มี ด้วยกติกาที่เอื้อ การรวมเสียงจากพรรคอื่นทำได้ไม่ยาก โดยเฉพาะจากพรรคการเมืองที่พร้อมเข้าร่วมได้ทุกฝ่ายอย่างภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ฯลฯ
แต่ด้วยบารมีของแคนดิเดตนายกฯพรรคไทยรักษาชาติทำให้พรรคการเมืองเหล่านี้จำต้องทบทวนการตัดสินใจให้รอบคอบ
การแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเข้มระหว่างทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯและ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น
ส่วนพรรคที่รับผลกระทบไปเต็มๆจากเกมการเมืองนี้คือพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยแอบหวังว่าจะเป็น “ตาอยู่” คว้าพุงปลาไปกินจนกล้าประกาศตัวเองว่าเป็นทางเลือกที่สามคงต้องร้องเพลงรอต่อไป
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้พรรคเล็กพรรคน้อยมีตัวเลือกแค่ 2 ข้อคือ จะไปร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติหรือพรรคพลังประชารัฐ
ถ้าจะมี “ตาอยู่” โผล่มาคว้าพุงปลาก็คงมีเพียงพรรคเพื่อไทย แต่โอกาสถือว่าน้อยมาก
นี่คือภาพการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม
You must be logged in to post a comment Login