- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ธปท.เปิดโครงการคลินิกแก้หนี้บัตรเครดิต
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ขยายเงื่อนไขโครงการคลินิกแก้หนี้ให้ครอบคลุมลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการนอนแบงก์ จากเดิมรับลูกหนี้เฉพาะที่เป็นธนาคารพาณิชย์เท่านั้น เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ เพราะจากการสำรวจมีสัดส่วนลูกหนี้กว่า 70% ของทั้งหมดเป็นลูกหนี้นอนแบงก์ โดยคาดว่าจะเริ่มได้ไตรมาส 2 ปีนี้ เนื่องจากต้องรอให้การแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายขอบเขตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถรับจ้างบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของนอนแบงก์มีผลบังคับใช้ก่อน ซึ่งปัจจุบันผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว
นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมใน 2 ส่วน ประกอบด้วย คุณสมบัติการเข้าโครงการ ที่เดิมต้องเป็นเอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 เมษายน 2561 ปรับเป็นต้องเป็นเอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 และอีกส่วนคือปรับปรุงเกณฑ์การพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้และวิธีการชำระหนี้ให้ยืดหยุ่น ง่าย และสอดคล้องกับสถานะลูกหนี้แต่ละรายได้มากขึ้น โดยเกณฑ์ใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
สำหรับโครงการคลินิกแก้หนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย และให้โอกาสลูกหนี้ผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 ปี ซึ่งจะทำให้ภาระที่ต้องจ่ายต่อเดือนน้อยลง เช่น หากลูกหนี้มียอดหนี้ 100,000 บาท จะผ่อนชำระขั้นต่ำเพียง 1,200 บาทต่อเดือน และหากมียอดหนี้ 50,000 บาท จะผ่อนชำระเพียง 600 บาทต่อเดือน โดยจากการสอบถามลูกหนี้พบว่ามีลูกหนี้อย่างน้อย 300-400 ราย ซึ่งเดิมปรับโครงสร้างหนี้ไม่สำเร็จหรือไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จะสามารถแก้ไขหนี้ได้สำเร็จเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ใหม่ 30%
สำหรับผู้ประกอบการนอนแบงก์ติดต่อร่วมโครงการแล้ว 8 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด 2. บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด 4.บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด 5.บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด 6.บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด 7.บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และ 8.บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)
You must be logged in to post a comment Login