- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
บทลงโทษ-ยุบพรรค
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/11/chuk1-300x300.jpg)
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 ก.พ. 62)
การเมืองจับจ้องไปที่พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งกรรมการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ ก่อนจะเริ่มการสืบสวนสอบสวนและจะเสนอให้กรรมการ กกต. พิจารณาว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคหรือไม่
หนึ่งในบทลงโทษตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง คือมาตรา 22 ระบุว่า ในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. หรือมีการเลือก ส.ว. หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกจนกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายต่างๆ กกต. สามารถมีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี แต่กรรมการบริหารพรรคการเมืองมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของ กกต. ต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ภายใน 30 วัน
ส่วนการยุบพรรคการเมืองต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวิจนิฉัย ตามมาตรา 92 ระบุว่า กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำผิด ให้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้วและมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำผิด ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง
การกระทำผิดที่จะนำไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เช่น กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคหรือสมาชิกของพรรคขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม เป็นต้น
ประเด็นของพรรคไทยรักษาชาติจึงต้องพิจารณาว่าจะเข้าข่ายการกระทำผิด 2 มาตราของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งจะมีโทษแรงถึงขั้นยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค และอาจมีโทษจำคุกด้วย
นอกจากนี้มาตรา 45 บัญญัติว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรคเช่นกัน
อำนาจเบื้องต้นจึงอยู่ที่ กกต. จะไต่สวนและมีมติอย่างไร หากเห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติก็ “เป็น-ตาย” เท่ากัน!
You must be logged in to post a comment Login