พวกเธอรวยเพราะผม

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  15-22 กุมภาพันธ์  2562)

หญิงสาวชาวไร่มีความสามารถในด้านดนตรีพอตัว ออกเดินสายเปิดการแสดงทั่วประเทศ สิ่งที่สร้างชื่อเสียงและเงินทองให้กับพวกเธอไม่ใช่เสียงเพลง หากแต่เป็นเส้นผมที่ยาวสลวย

เส้นผมยาวสลวยเป็นลอนคลื่นเป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวสมัยวิกตอเรียน ดังจะเห็นได้จากภาพเขียนและบทกวีสมัยนั้นที่มักบรรยายถึงหญิงงามที่มีเส้นผมยาวสลวย อย่างไรก็ตาม หญิงสาวจะเกล้าผมไว้บนศีรษะเมื่อออกนอกบ้าน จะปล่อยผมก็ต่อเมื่อเวลาอยู่ในบ้านเท่านั้น

เฟลตเชอร์ และแมรี่ ซัตเธอร์แลนด์ เป็นเกษตรกรทำฟาร์มไก่งวงใกล้กับน้ำตกไนแองการา ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก พวกเขามีลูกสาว 7 คน เกิดระหว่างปี 1846-1864 ชื่อซาร่า, วิกตอเรีย, อิซาเบลลา, เกรซ, นาโอมิ, แมรี่ และดอร่า และมีลูกชาย 1 คนชื่อชาร์ล จากทะเบียนราษฎรระบุว่าลูกสาว 2 คน เป็นลูกบุญธรรมเกิดจากมาร์ธา บริง น้องสาวของแมรี่

แมรี่ชอบนำครีมที่เธอปรุงส่วนผสมเองมาหมักผมให้กับลูกสาวเป็นประจำ มันเป็นครีมที่มีกลิ่นเหม็นค่อนข้างรุนแรง ซึ่งคงไม่เป็นปัญหาอะไรหากเด็กสาวเลี้ยงไก่งวงอยู่ที่บ้าน แต่วันไหนที่พวกเธอไปโรงเรียนก็มักจะโดนเพื่อนๆต่อว่าเป็นประจำ

ครอบครัวซัตเธอร์แลนด์มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี โดยเฉพาะนาโอมิมีเสียงเบสที่ไพเราะมาก ขณะที่ซาร่าเป็นครูสอนวิชาดนตรี เฟลตเชอร์พาลูกๆไปแสดงดนตรีตามตลาดนัด งานการกุศล และโรงละครท้องถิ่น ภายใต้ชื่อ “Sutherland Concert of Seven Sisters, and One Brother”

รอชมตอนจบ

แมรี่คนแม่เสียชีวิตในปี 1867 สูตรลับครีมหมักผมสูญหายตายไปพร้อมกับเธอ เหลือทิ้งไว้เพียงมรดกเส้นผมยาวสลวยของลูกสาวทั้ง 7 คน ต่อมาปี 1885 นาโอมิแต่งงานกับแฮรี่ เบลีย์ ผู้มีนามสกุลเดียวกับเจมส์ เบลีย์ หุ้นส่วนคณะละครสัตว์บาร์นัมและเบลีย์ (ริงลิงบราเธอร์) คณะดนตรีซัตเธอร์แลนด์จึงออกเดินสายทั่วอเมริกากับคณะละครสัตว์ ตอนนั้นชาร์ลซึ่งเป็นผู้ชายคนเดียวในวงเลิกร้องเพลงไปแล้ว เหลือเพียงสาวๆซัตเธอร์แลนด์ 7 คน

แฮรี่สังเกตเห็นว่าผู้ชมส่วนใหญ่ฮือฮากับตอนท้ายของการแสดงดนตรีคณะซัตเธอร์แลนด์มากกว่าตอนที่สาวๆร้องเพลง เพราะตอนจบการแสดงสาวๆทั้ง 7 คน จะปล่อยผมโชว์เส้นผมเป็นลอนคลื่นที่ยาวสลวยจนลากถึงพื้นเวที แฮรี่จึงปรึกษากับเฟลตเชอร์หาช่องทางทำมาหากินแบบใหม่

เป็นที่น่าสนใจว่าจริงๆแล้ว แฮรี่ เบลีย์ ไม่ใช่ชื่อจริง ชื่อจริงของเขาคือ เจ. เฮนรี่ เบลีย์ แต่จะเป็นญาติกับเจมส์ เบลีย์ หุ้นส่วนคณะละครสัตว์บาร์นัมและเบลีย์ หรือไม่ยังไม่แน่ชัด บ้างก็บันทึกว่าเขาเป็นหลานของเจมส์ ขณะที่เจมส์เองเดิมทีก็ไม่ใช่นามสกุลเบลีย์ แต่เป็นนามสกุลแมกกินนิส เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นนามสกุลเบลีย์ตอนที่ได้งานเป็นผู้ช่วยคณะละครสัตว์ เอฟ. เอช. เบลีย์

แฮรี่และเฟลตเชอร์จับมือกันจดทะเบียนลิขสิทธิ์ยาปลูกผมภายใต้ชื่อ Seven Sutherland Sisters โดยมีสโลแกนว่า “It’s the Hair-not the Hat That Makes a Woman Attractive” (เส้นผมไม่ใช่หมวกที่ทำให้ผู้หญิงน่าสนใจ)

ขายดีเทน้ำเทท่า

แม้ว่าสูตรลับจะสูญหายไปพร้อมกับการเสียชีวิตของแมรี่ตั้งแต่ปี 1867 แต่แฮรี่และเฟลตเชอร์ก็เข็นยาปลูกผมออกมาวางจำหน่าย โดยส่วนผสมประกอบด้วยสารบอแรกซ์ เกลือ ควินิน น้ำมันหอม และแมลงวันสเปน เพียงแค่ปีแรกสามารถขายยาปลูกผมได้มากถึง 90,000 ดอลลาร์ (ค่าเงินปัจจุบันประมาณ 2.5 ล้าน)

แฮรี่และเฟลตเชอร์แตกไลน์ขยายตลาด ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ยาล้างหนังศีรษะและยาบำรุงเส้นผมภายใต้ชื่อเดียวกัน มีตัวแทนจำหน่าย 28,000 แห่งทั่วอเมริกา เมื่อถึงปี 1890 พวกเขาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 3 ล้านดอลลาร์

7 สาวพี่น้องเลิกอาชีพร้องเพลงมาทำหน้าที่โชว์ตัว (เส้นผม) ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงนิวยอร์ก ผู้คนที่ผ่านไปมาหยุดมุงดูจนทำให้การสัญจรในย่านนั้นติดขัด ทำให้ศาลมีคำสั่งชั่วคราวห้าม 7 สาวพี่น้องมาโชว์ตัวที่สำนักงานใหญ่ แต่ 7 สาวพี่น้องยังคงเดินสายออกโชว์ตัวตามร้านตัวแทนจำหน่าย

เงินทองหลั่งไหลมาหาครอบครัวซัตเธอร์แลนด์ พวกเธอรื้อโรงนาแล้วสร้างคฤหาสน์หรู มีห้องนอนส่วนตัวสำหรับทุกคน ห้องน้ำปูด้วยหินอ่อน ดาดฟ้ามีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ โดยคนงานจะขนน้ำขึ้นไปเติมให้เต็มแท็งก์ทุกวัน มีตู้เสื้อผ้าแยกชุดสำหรับฤดูหนาวและฤดูร้อน รางหญ้าเลี้ยงม้าทำด้วยทองคำ จัดพิธีฝังศพสัตว์เลี้ยงอย่างหรูหรา เรียกว่าใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย

สูงสุดคืนสู่สามัญ

เฟลตเชอร์เสียชีวิตในปี 1888 ตามมาด้วยนาโอมิเสียชีวิตในปี 1893 อิซาเบลลาในวัย 40 ปี แต่งงานกับเฟรดริก คาสเซิลเมน หนุ่มวัย 27 ปี ซึ่งเคยคบหาเป็นแฟนกับดอร่า น้องสาวของเธอ อาจเป็นเพราะเงินทองได้มาง่าย ทำให้เฟรดริกไม่ทำอะไร วันๆเอาแต่สูบฝิ่น เบื่อๆก็เอาปืนมายิงเล่นหน้าบ้าน

เฟรดริกปลิดชีวิตตัวเองในปี 1897 ร่างของเขาถูกบรรจุในโลงครอบแก้วตั้งอยู่ในห้องฟังเพลงกลางคฤหาสน์หรูนานหลายสัปดาห์ โดยพี่น้องซัตเธอร์แลนด์จะมาร้องเพลงโปรดของเฟรดริกทุกวัน สุดท้ายแล้วสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นต้องบังคับให้ครอบครัวซัตเธอร์แลนด์นำร่างเฟรดริกไปฝังในสุสาน

อิซาเบลลาเดินทางไปอาลัยเฟรดริกที่สุสานทุกๆคืนติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี จนกระทั่งเธอพบรักใหม่กับอลอนโซ สเวน หนุ่มวัย 30 ปี เขาโน้มน้าวให้อิซาเบลลาขายหุ้นบริษัทผลิตยาปลูกผมของตระกูลซัตเธอร์แลนด์ เอาเงินมาลงทุนผลิตยาปลูกผมที่เขาคิดค้นสูตรขึ้นมา แต่กิจการของอลอนโซพังไม่เป็นท่า อิซาเบลลาเสียชีวิตอย่างคนอนาถา ขณะที่อลอนโซหายตัวเข้ากลีบเมฆ

วิกตอเรียเดินตามรอยพี่สาว เธอแต่งงานในวัย 50 ปี กับหนุ่มรุ่นลูกวัย 19 ปี ทำให้พี่น้องคนอื่นๆไม่พอใจตัดพี่ตัดน้อง ส่วนสาวซัตเธอร์แลนด์ที่เหลืออีก 4 คนครองความเป็นโสด แต่ก็ใช่ว่าพวกเธอจะมีความสุข แมรี่มีอาการโรคประสาท ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง

ปี 1907 ยอดขายยาปลูกผมเริ่มตกต่ำลง และเมื่อถึงปี 1920 แฟชั่นนิยมผู้หญิงผมยาวเปลี่ยนไปเป็นผมบ๊อบ แมรี่ ดอร่า และเกรซ พยายามดิ้นรนด้วยการเดินทางมาฮอลลีวูดเพื่อติดต่อสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวประวัติความสำเร็จของพวกเธอ โชคร้ายที่ดอร่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในปี 1926

แมรี่และเกรซถังแตกไม่มีแม้เงินค่าทำศพดอร่า การติดต่อสร้างภาพยนตร์ก็ล้มเหลว พวกเธอเดินทางกลับบ้านมือเปล่า คฤหาสน์หรูถูกประกาศขายเพื่อนำเงินมาเลี้ยงชีพในบั้นปลายของชีวิต เงินทองจำนวนมหาศาลที่เคยหาได้หมดไปกับเรื่องไร้สาระอย่างน่าเสียดาย

1.เจ็ดพี่น้องซัตเธอร์แลนด์

2.ผมยาวสลวยของพี่น้องซัตเธอร์แลนด์

3.ซาร่า

4.วิกตอเรีย

5.อิซาเบลลา

6.เกรซ

7.นาโอมิ

8.ดอร่า

9.แมรี่

10.คฤหาสน์ซัตเธอร์แลนด์

You must be logged in to post a comment Login