วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“มาร์ค”ชี้อยากก้าวพ้นเรื่องตัวบุคคลให้เลือกพรรคที่เป็นสถาบัน

On February 17, 2019

ที่ตลาดหมู่บ้านสินทวี เขตจอมทอง  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บางพรรคการเมืองเสนอให้ว่าไม่ควรให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ข้าว แต่ควรรอให้มีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ดำเนินการดังกล่าว ว่า ตนอยากให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณาออกกฎหมายในเชิงนโยบายที่สำคัญๆ เพราะขณะนี้ประชาชนกำลังมีโอกาสในการเลือกพรรคการเมืองเข้าไปเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่มีการโต้แย้งกันอยู่ รวมถึงอะไรก็ตามที่เป็นปัญหาหรือมีการโต้แย้งกันมากในสังคม เราควรจะต้องรอให้มีรัฐบาลชุดใหม่มาจัดการ ส่วนกรณีของร่าง พ.ร.บ.ข้าว ในวันที่ 18 ก.พ.นี้  นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูแลเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ จะมีการประชุมพูดคุยกันเพื่อให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ด้วย

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนางนันทพร วีรกุลสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 23 เขตจอมทอง เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงดาวคะนอง แขวงบุคคโล และแขวงสำเหร่) หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ เดินพบปะประชาชนที่ตลาดสดภายในหมู่บ้านสินทวี ถนนพระราม 2 เขตจอมทอง เพื่อ ประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรค “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” พร้อมขอคะแนนการสนับสนุนจากประชาชน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยและสัญจรไปมาในพื้นที่ดังกล่าว ให้การต้อนรับอย่างดี มีทั้งการมอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่นายอภิสิทธิ์และคณะ รวมถึงขอถ่ายภาพคู่กับนายอภิสิทธิ์เป็นระยะๆตลอดทาง ต่อมา นายอภิสิทธิ์และคณะขึ้นรถแห่ไปพบปะประชาชนบริเวณตลาดสุขสวัสดิ์ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 8 เขตจอมทอง โดยยังมีประชาชนมอบดอกไม้และให้กำลังใจแก่คณะของพรรคประชาธิปัตย์

ขณะเดียวกันมีชายคนหนึ่ง บอกกับนายอภิสิทธิ์ว่าอยากให้พรรคประชาธิปัตย์แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่สูงขึ้น ขณะที่การค้าขายในตอนนี้ไม่ได้กำไรเลย ซึ่งนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับไปเป็นรัฐบาล จะเร่งหาทางแก้ไขเรื่องราคาน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันดีเซล จึงขอให้ประชาชนเลือกให้ถูกพรรคเพื่อจะเข้าไปเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆให้ดีขึ้น จากนั้น คณะของนายอภิสิทธิ์มุ่งหน้าต่อไปที่ตลาดโอ๋เอ๋ ถนนพระราม 2 

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการรณรงค์หาเสียงในหลายพื้นที่ พบว่าประชาชนมีความตื่นตัวค่อนข้างมากในเรื่องการเลือกตั้งและมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นและปัญหาต่างๆจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ซึ่งการลงพื้นที่ในเขตจอมทองวันนี้(17 ก.พ.) ประชาชนพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงเศรษฐกิจและการค้าขายไม่ดี มีปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งสิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหา

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีตส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามาจากการได้เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 57 ว่า เป็นสิทธิของนายวิชัย ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตนทราบข่าวนี้ล่วงหน้า 2-3 วันก่อนที่นายวิชัยยื่นลาออก สำหรับการจัดลำดับผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนอาจเกิดความไม่พอใจได้ แต่การแข่งขันจำเป็นจะต้องจัดทีม ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นบางคนมีความไม่พอใจบ้าง 

เมื่อถามว่าการที่มีหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจต่อเรื่องแบบเดียวกัน จนทำให้บางคนลาออกจากพรรค อาทิ นายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงของพรรคโดยรวมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมาช่วยกันเดินหน้าหาเสียงต่อ กรณีของนายโกวิทย์ ถือเป็นสิทธิเช่นเดียวกัน ตนไม่อยากไปพูดอะไร เพราะเป็นการตัดสินใจของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าตอนนี้ทุกคนมุ่งหน้าเรื่องการลงพื้นที่ทำงาน ยังไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร เรื่องภายในพรรคถือว่าเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับเรื่องของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกพรรคอื่นลอกนโยบาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าการที่บางพรรคการเมืองบอกว่าทุกคนต้องแก้ปัญหาเดียวกัน แต่ที่ตัวเองยืนยันคือพรรคประชาธิปัตย์ใช้เวลา 5 ปี ไม่เคยปิดพรรค อยู่กับประชาชนและสอบถามประชาชนตลอด จึงเป็นที่มาของนโยบายและเราได้ตั้งข้อสังเกตกับพรรคที่เป็นรัฐบาล ว่าในวันที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าทำได้อย่างไร เอาเงินมาจากไหน แต่เมื่อมีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาก พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์กลับเสนอเรื่องเดียวกับเราและใช้เงินมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องแปลก

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ในขณะนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าอยากจะพ้นจากปัญหาเรื่องตัวบุคคลได้หรือยัง เพราะถ้าหากอยากพ้นปัญหาในเรื่องของตัวบุคคลก็ให้สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีความเป็นสถาบันและใช้มาตรฐานแบบสากลในการทำงานทางการเมือง เพราะจะทำการเมืองให้เป็นระบบและทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้เนื่องจากไม่มีผลประโยชน์ของตัวบุคคล


You must be logged in to post a comment Login