ก่อนถึง24มีนาคม

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 20 ก.พ. 62)

“หนักแผ่นดิน” ทำการเมืองร้อนฉ่า แบ่งข้างตอบโต้กันรุนแรงทุกระดับ บรรยากาศย้อนไปเหมือนก่อนยึดอำนาจปี 2549 และปี 2557 ต่างกันแค่ไม่มีม็อบมาเดินบนถนน อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตามสถานการณ์ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะล้มโต๊ะเลือกตั้ง ถ้าจะล้มโต๊ะต้องปั่นป่วนกว่านี้ วุ่นวายกว่านี้ ที่สำคัญฝ่ายการเมืองน่าจะรู้สถานการณ์ดี แม้จะตอบโต้แต่คงเลือกประคับประคองให้ถึงวันเลือกตั้งมากกว่า ความปั่นป่วนหากจะเกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดจากฝ่ายการเมือง จึงต้องจับตาดูว่าระหว่างทางก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“หนักแผ่นดิน” ประโยคที่ทำให้บรรยากาศการเมืองกลับมาร้อนฉ่า

ร้อนจนหลายคนเริ่มกังวลใจว่าบ้านเมืองจะเดินไปไม่ถึงวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้เพราะ “หนักแผ่นดิน” ได้ปลุกความคิดแยกขั้วแบ่งข้างทางการเมืองฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง มีการตั้งป้อมตอบโต้กันไปมา ทั้งผู้คุมอำนาจ นักการเมือง นักวิชาการ แกนนำมวลชน ตลอดจนกองเชียร์ของทั้งสองฝ่าย

บรรยากาศไม่ต่างไปจากช่วงก่อนรัฐประหาร 2 ครั้งหลังสุดในปี 2549 และปี 2557 ต่างกันเพียงแค่ไม่มีม็อบลงไปเดินตามท้องถนน

ซ้ำร้ายยังเพิ่มดีกรีความปั่นป่วนด้วยการเอาระเบิดปลอมไปวางในที่สาธารณะ ทำให้ความกังวลที่ว่าจะเดินไปไม่ถึงวันที่ 24 มีนาคมเริ่มมีมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากดูช่องทางที่จะทำให้เดินไปไม่ถึงวันที่ 24 มีนาคม ความเป็นไปได้มีอยู่แค่ 2 ช่องทางเท่านั้น

หนึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกหรือเลื่อนการเลือกตั้ง

อีกหนึ่งช่องทางคือ “ยึดอำนาจ”

คำถามคือ ระหว่างใช้อำนาจตามมาตรา 44 กับยึดอำนาจ อะไรมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน

ถ้าว่ากันตามจริงชั่วโมงนี้การยึดอำนาจมีความเป็นไปได้มากกว่า

ทั้งนี้เพราะการยึดอำนาจมีความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่า หากใช้อำนาจมาตรา 44 ล้มการเลือกตั้ง รัฐบาลทหาร คสช. ก็ยังต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ

แต่การยึดอำนาจทำให้สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ และสามารถนิรโทษกรรมตัวเองได้ในทุกกรณี

ถ้าถามว่าอะไรมีโอกาสเกิดได้มากกว่ากัน ก็ต้องตอบว่าโอกาสในการยึดอำนาจมีความเป็นไปได้มากกว่า

แต่ถ้าถามว่าโอกาสเกิดการยึดอำนาจมีมากแค่ไหน

หากดูตามสถานการณ์แล้วยังถือว่าไม่มาก ยังอยู่ในระดับไม่เกิน 20% เพราะถ้าจะยึดอำนาจบ้านเมืองต้องมีความปั่นป่วนมากกว่านี้ วุ่นวายมากกว่านี้ ลำพังแค่ตอบโต้ไปมาว่าใครหนักแผ่นดินมากกว่ากันยังถือว่าไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เกิดการยึดอำนาจ

ที่สำคัญฝ่ายการเมืองน่าจะรู้สถานการณ์ดี แม้จะตอบโต้ แต่คงเลือกประคับประคองให้ถึงวันเลือกตั้งมากกว่า ความปั่นป่วนหากจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่น่าจะเกิดจากฝ่ายการเมือง

สิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่จะลืมไม่ได้เลยคือพระราชพิธีสำคัญในเดือนพฤษภาคม ถ้าจะมีการยึดอำนาจก่อนถึงพระราชพิธีสำคัญอาจเสี่ยงเกินไปในหลายมิติ

ดังนั้น เมื่อประเมินจากสถานการณ์ตอนนี้ถือว่าโอกาสที่จะล้มเลือกตั้งไม่ว่าจะด้วยวิธีใดยังมีไม่มาก

แต่หากหลังจากนี้มีระเบิดทั้งของจริงของปลอมโผล่ที่นั่นที่นี่ หรือมีเสียงระเบิดดังตูมตามในปริมาณที่ถี่ขึ้น โอกาสที่การเลือกตั้งจะถูกล้มก็จะมีมากขึ้นทันที

สถานะของบ้านเมืองจึงอยู่ในช่วงความผันผวน ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าระหว่างทางจากนี้ไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

You must be logged in to post a comment Login