วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

รถไฟรางคู่โพธารามทำลายเมือง!

On February 20, 2019

คอลัมน์ โลกอสังหาฯ ย
รถไฟรางคู่โพธารามทำลายเมือง!
โดย ดร.โสภณ พรโชคชั
(โลกวันนี้วันสุข 22 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2562)

ผมเดินทางไปราชบุรีไปประชุมคณะกรรมการสมาคมผู้ซื้อบ้าน ปรากฏว่ากรรมการของเราท่านหนึ่งคือ คุณวิญญู วรัญญู พาไปดูการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาขนานใหญ่แก่ชาวบ้านอำเภอโพธารามและอำเภออื่นๆ เพราะเขตทางของการรถไฟฯจะถูกปิด ชาวบ้านต้องขึ้น “เกือกมือ” ห่างไปไกลนับกิโลฯ จะทำอย่างไรดี

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 นายพลยุทธ อังกินันทน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาทางข้ามทางรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบุรี โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ที่ผ่านมานายพลยุทธได้เสนอแบบให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางข้ามและทางลอดให้ฝ่ายวิศวกรรมโยธา การรถไฟฯ ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อชาวจังหวัดเพชรบุรีน้อยที่สุด และครั้งนี้เป็นการสรุปแบบการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา (https://bit.ly/2NdbH4O)
โพธาราม
รูปแบบการแก้ไขปัญหาทางข้ามทางรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบุรี ได้สรุปว่าจะมีการทำสะพานยกระดับถนนข้ามทางรถไฟในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีจำนวน 4 จุด สร้างถนนเลียบทางรถไฟ 1 จุด ทำช่องทางลอดทางรถไฟสำหรับรถขนาดเล็ก 5 จุด ยกระดับทางรถไฟเพื่อให้ข้ามถนน 1 จุด และสร้างอาคารสถานีรถไฟเพชรบุรีใหม่
โพธาราม2
โพธาราม3
บริเวณสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี (ดอนคาน) จะมีการสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ตั้งแต่ ถ.รถไฟ บริเวณหน้าโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ถึง ถ.คีรีรัฐยา สำหรับรถที่จะเข้าหมู่บ้านใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ส่วนของอาคารสถานีรถไฟเพชรบุรีจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นที่บริเวณทิศใต้ของอาคารเดิมอีก 1 หลัง เพื่อทำเป็นสถานีรถไฟแห่งใหม่ ขณะที่สถานีรถไฟหลังเก่าจะเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในทางอื่น

บริเวณแยกสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด-จ.ศ. (ถ.สายบ้านแหลมฝั่งตะวันตก) ทำเป็นสะพานยกระดับข้ามทางรถไฟ บริเวณกลางสะพานยกระดับออกแบบเป็นสามแยก รถที่มาจาก อ.บ้านแหลมสามารถวิ่งตรงไปลงที่สี่แยกที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบุรี ถ.ราชดำเนิน หรือเลี้ยวซ้ายที่ทางแยกยกระดับบริเวณกลางสะพานด้านบนเพื่อลงสะพานเข้า ถ.เลียบทางรถไฟ (ฝั่งตรงข้าม หลังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี) แล้วรอเลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า หรือเลี้ยวซ้ายไปยังตลาดธนสิทธิ์ ซึ่งบริเวณใกล้เคียงสะพานยกระดับข้ามแยกจุดนี้จะมีการสร้างสะพานลอยแบบมีทางลาดให้คน รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน ใช้เป็นเส้นทางข้ามทางรถไฟด้วย

เส้นทางทางลอดใต้สะพานรถไฟไปวัดน้อยไชยสุรินทร์ (ฝั่ง ต.คลองกระแชง) ทางลอดใต้สะพานนามอญ (ฝั่ง ต.ท่าราบ) เพชรบุรี ยังมีคงเดิม โดยจะมีการกดระดับถนนเดิมเพื่อให้มีระดับความสูง 2.5 เมตร บริเวณทางเข้าบ้านนามอญ (ใกล้โรงสีมานะ) มีการกดระดับถนนเดิมแล้วทำบล็อกทางลอดใต้รางรถไฟขนาดกว้าง 3 เมตร สูง 2.5 เมตร จำนวน 2 ช่อง เพื่อให้รถยนต์ขนาดเล็กลอดได้

บริเวณวัดไตรโลก-กุ่มสะแก เป็นสะพานยกระดับข้ามทางรถไฟลักษณะโค้งเป็นรูปเกือกม้าทางทิศใต้ แล้ววกกลับคร่อมขวางทางรถไฟลดระดับลงมาบรรจบบริเวณสามแยกกุ่มสะแก ต.ช่องสะแก

บริเวณจุดตัดรถไฟ ซอยวัดนาค ชุมชนวัดนาค ทำบล็อกทางลอดใต้รางรถไฟขนาดกว้าง 3 เมตร สูง 2.5 เมตร จำนวน 2 ช่อง เพื่อให้รถยนต์ขนาดเล็กลอดได้

บริเวณจุดตัดรถไฟ ถ.ท่าหิน-อบต.ช่องสะแก ทำบล็อกทางลอดใต้รางรถไฟขนาดกว้าง 3 เมตร สูง 2 เมตร จำนวน 2 ช่อง เพื่อให้รถยนต์ขนาดเล็กลอดได้

บริเวณ ถ.เลียบคลองชลประทาน (หลังร้านอินเดียนแดง) เป็นสะพานยกระดับข้ามทางรถไฟลักษณะโค้งเป็นรูปเกือกม้าทางทิศใต้ แล้ววกกลับคร่อมขวางทางรถไฟก่อนลดระดับลงมาแล้วตรงไปบรรจบกับ ถ.ภูมิรักษ์ บริเวณทางโค้งก่อนถึงสี่แยกท่าหิน โดยจุดนี้เมื่อแล้วเสร็จเทศบาลเมืองเพชรบุรีจะติดตั้งไฟสัญญาณจราจรให้เหมาะสม

ส่วนบริเวณ ถ.ราชดำริห์ ต.ต้นมะม่วง- ต.โพไร่หวาน (เส้นทางไปมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี) นายพลยุทธเสนอขอให้เปลี่ยนแบบ เนื่องจากเดิมมีการวางแบบกำหนดเป็นสะพานข้ามทางรถไฟ ซึ่งรูปแบบดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้เต็มรูปแบบ เพราะรถที่มาจาก ถ.ภูมิรักษ์ไม่สามารถเลี้ยวสะพานได้โดยตรง ต้องไปกลับรถ ซึ่งทำให้เกิดปริมาณรถสะสม โดยเสนอแนวทางให้มีการยกระดับพื้นรางรถไฟขึ้นตั้งแต่เลยแยกท่าหินเพื่อให้สูงกว่าระดับเดิม 5 เมตร เพื่อให้ยกทางรถไฟสูงข้าม ถ.ราชดำริห์ ซึ่งจะทำให้รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และรถที่มาจาก ถ.ภูมิรักษ์สามารถวิ่งลอดผ่านด้านล่างรางรถไฟในลักษณะการใช้ถนนแบบเดิม ซึ่งเบื้องต้นตัวแทนฝ่ายก่อสร้างชี้แจงว่าสามารถทำได้ แต่จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมกว่า 250 ล้านบาท

ต่อมาในวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ชาวบ้านใน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้ขึ้นป้ายคัดค้านการก่อสร้างทางกลับรถแบบยกระดับข้ามทางรถไฟรางคู่ที่บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของรถไฟรางคู่ โดยป้ายขนาดใหญ่หลายจุดมีข้อความว่า ชาวโพธารามไม่เอาเกือกม้า แต่จะเอาอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟแทน และขอให้ฟังเสียงประชาชนด้วย ทำให้แบ่งเมืองโพธารามออกเป็นสองฝั่ง ทำให้การสัญจรไปมาลำบาก เพราะการรถไฟฯได้ทำแผนที่จะมีการก่อสร้างทางเกือกม้า (ทางกลับรถยกระดับ) ให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร โดยไม่ได้ถามความต้องการของชาวบ้านเลย (https://bit.ly/2DOKrFf)

นอกจากนั้นชาวบ้านยังกล่าวว่า ทางกลับรถเกือกม้าสูงและแคบ และมีระยะทางที่ค่อนข้างไกล ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ปั่นจักรยานไม่สามารถขึ้นไปได้ และยังอันตรายด้วย จึงอยากให้มีการสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดมากกว่า เพราะสะดวก และไม่ต้องไปไกล ทั้งรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ก็สามารถข้ามไปมาได้ หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องเข็นรถมาขายของในตลาดโพธารามก็สามารถใช้เส้นทางได้ ชาวบ้านจึงอยากให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ใหม่ (https://bit.ly/2NdwFjI)

อนึ่ง โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน เป็นการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางรถไฟที่ช่วยในการยกระดับโลจิสติกส์ภาคใต้ของไทย โดยก่อสร้างทางรถไฟใหม่ระบบรางเป็นทางกว้าง 1 เมตร เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิมตลอดสายทาง เส้นทางมีจุดเริ่มต้นที่สถานีรถไฟนครปฐมมุ่งไปทางทิศตะวันตกถึงชุมทางหนองปลาดุก จากนั้นแนวเส้นทางเลี้ยวซ้ายลงสู่ภาคใต้ ผ่านจังหวัดราชบุรี (อ.บ้านโป่ง อ.โพธาราม อ.เมือง อ.ปากท่อ) จ.เพชรบุรี (อ.เขาย้อย อ.เมือง อ.ท่ายาง อ.ชะอำ) และสิ้นสุดที่สถานีรถไฟหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวมทั้งหมด 169 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งหมด 17,249.90 ล้านบาท หากสมบูรณ์จะสามารถเพิ่มความจุของทางมากกว่า 200 ขบวนต่อวันโดยไม่ต้องรอสับหลีก เพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาการเดินทาง-ขนส่งสั้นลง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่ง ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญ และเชื่อมโยงการค้าสู่ภูมิภาค-ท้องถิ่น (https://bit.ly/2NdbH4O)

ลองช่วยกันคิดเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนครับ


You must be logged in to post a comment Login