“สนธิรัตน์”ยันที่มา250ส.ว.ไม่เกี่ยวกับพปชร.

On February 25, 2019

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชี้แจงกรณีพรรคพลังประชารัฐถูกโจมตีในหลายประเด็นขณะนี้ว่า พรรคมีคำตอบสำหรับทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นวาทกรรมเรื่องความเป็นประชาธิปไตยกับไม่เป็นประชาธิปไตย ยืนยันว่าพรรคเราเคารพเรื่องประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยที่จะใช้วาทกรรมเรื่องนี้มาโจมตีกัน เพราะขณะนี้ทุกพรรคกำลังเดินเข้าสู่ประชาธิปไตยตามกลไกของรัฐธรรมนูญที่เราให้ความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านประเทศ ดังนั้น อย่าเอาเรื่องการสืบทอดอำนาจมาพูด เพราะเป็นการพูดคนละตอน

“พรรคไม่เกี่ยวข้องกับกลไกการเปลี่ยนแปลงประเทศในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อมีโอกาสพรรคก็เดินหน้าเข้าสู่กลไกตามระบอบ ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นประชาธิปไตย” นายสนธิรัตน์กล่าว

ต่อกรณี ส.ว. 250 คน ที่หลายฝ่ายโจมตีว่าเอื้อประโยชน์ให้พรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กลไกที่จะให้ ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีเกิดก่อนพรรคพลังประชารัฐและอีกหลายพรรคจะถูกตั้งขึ้น เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนในลักษณะคำถามพ่วง เพราะคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต้องการความชัดเจนจากประชาชนจึงให้ประชาชนเลือก และผลก็ออกมาว่าประชาชน 13.9 ล้านคน เห็นชอบการมีกลไกให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศซึ่งยังขัดแย้งอยู่

“ยืนยันได้ว่าเราเคารพกติกา และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา ส.ว. ที่สำคัญวันนี้ยังไม่เห็นตัวตนว่า ส.ว. 250 คนเป็นใครบ้าง ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับพรรค วันนี้เรากลับไปพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เป็นปัญหา”

นายสนธิรัตน์ยืนยันว่า กลไกจัดตั้งรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญหลังการเลือกตั้ง พรรคมีจุดยืนว่ารัฐบาลต้องมีเสียงข้างมากในรัฐสภา หากเป็นแกนนำในการจัดตั้งก็ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นกลไกนอกเหนือของพรรค เพราะเป็นกลไกของ 2 สภา ยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนร่วม จึงขออย่าพูดไปก่อน หากพรรคเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็ต้องมีเสียงสนับสนุนมากพอในการจัดตั้ง คือต้องรวบรวมเสียงให้ได้มากกว่า 250 เสียง หรือพรรคไหนรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงก็สามารถตั้งรัฐบาลได้

ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่าคนเลือก ส.ว. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ส่วนตัวเคารพกลไก และเชื่อว่าคนเป็น ส.ว. มีวิจารณญาณและดุลยพินิจที่จะพิจารณา เราต้องไว้วางใจ ขณะเดียวกันยังไม่ถึงเวลาที่จะกังวลว่าพรรคอาจถูกบอยคอตในสภาจนต้องเป็นฝ่ายค้าน ขณะนี้เราขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นายสนธิรัตน์ยังกล่าวถึงกรณีที่คะแนนนิยมของพรรคตกลงทุกสัปดาห์ว่า พรรครับฟังผลโพลจากทุกสำนัก และพรรคก็มีวิธีการทำโพลของพรรค ซึ่งผลที่ออกมาก็มักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่เราก็จะมุ่งนำเสนอนโยบายให้ประชาชนสนใจ เพราะขณะนี้ยังมีประชาชนอีกกว่า 50% ที่ยังไม่ตัดสินใจ ก็จะทำให้ดีที่สุด

Featured