- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 13 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
หุ้นไทยเด้งรับข่าวเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/12/ตลาดหุ้น-300x148.jpg)
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนเป็นหลัก เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. เพื่อให้มีเวลาในการเจรจามากขึ้น และอาจมีการเจรจาการค้ากันในช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่สนามกอล์ฟของทรัมป์ในรัฐฟลอริด้า โดยสหรัฐได้มีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีนจะมีการซื้อสินค้าทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐฯ 10 รายการมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ เพื่อให้มีงบในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาอาจถูกยับยั้งโดยสภาคองเกรสหากมีมติมากกว่า 2 ใน 3 ในสภาฯ แต่ทรัมป์ยังมีอำนาจในการคัดค้านหรือวีโตได้
รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ GDP ไตรมาสที่ 4 , ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (ISM ManufacturingPMI) ประจำเดือน ก.พ. ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาชะลอตัว และจับตาท่าทีของสหรัฐฯและยุโรปในช่วง 90 วันที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์เคยขู่ที่จะใช้มาตรการ Safe Guard ในสินค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยการเก็บภาษีสูงถึง 25%
ส่วนตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวก จากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน บวกกับ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD ทำให้มองว่า SET Index มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด และแนวต้านระยะกลางรอทดสอบที่ระดับ 1,678 จุด แนะนำกลยุทธ์ซื้อ 3 กลุ่มหุ้นเด่น ดังนี้ 1. กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แนะนำ SYNEX, FTE และ AAV 2. กลุ่มโรงพยาบาล เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องแนะนำ EKH, RJH, BCH และ BDMS 3.กลุ่มจำนำทะเบียนรถ รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD และ MTC
You must be logged in to post a comment Login