อำนาจลากตั้ง!

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 ก.พ. 62)

ในที่สุด “สภาลากตั้ง” ภายใต้ระบอบเผด็จการก็ยอมถอนวาระการพิจารณา “ร่าง พ.ร.บ.ข้าว” ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ “คนดีลากตั้ง” พยายามจะผลักดันให้ออกเป็นกฎหมายให้ได้ อ้างชาวนาส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ แต่ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมเลย

“คนดีลากตั้ง” ยืนยันว่าการถอน “ร่าง พ.ร.บ.ข้าว” ไม่ได้เกี่ยวกับ “ลุงฉุน” ไม่ได้ใบสั่งและมีซิกอะไรทั้งนั้น ถาม “เด็กอมมือ” ว่าเชื่อหรือไม่ เพราะผ่านมากว่า 4 ปี ตรวจสอบการลงมติกฎหมายแต่ละฉบับได้ว่าเป็น “สภาฝักถั่ว” หรือไม่ แม้แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 3 ล้านล้านบาท ลงมติเอกฉันท์ 206 เสียง ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง

ที่น่าสนใจนอกจาก “ร่าง พ.ร.บ.ข้าว” แล้วยังมี “ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” หรือ “พ.ร.บ.คอมพ์” ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐสอดส่องข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ จนฝ่ายตุลาการเตือนว่าเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนและจะกระทบต่อการลงทุน

ขณะที่เครือข่าย “People GO network” ยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้ “สภาลากตั้ง” ยุติการพิจารณากฎหมายทุกฉบับที่ยังค้างอยู่ เพื่อให้สภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณาต่อ

เพราะ “สภาลากตั้ง” 250 คน เป็นทหารจำนวนมากถึง 58% (145 คน) รองลงมาเป็นข้าราชการ 26% (66 คน) ภาคธุรกิจ 8% (19 คน) ตำรวจ 5% (12 คน) ที่เหลือเพียง 3% (8 คน) เป็นนักวิชาการหรือภาคประชาสังคม หากรวมสมาชิกที่เคยเป็นข้าราชการหรือทำงานในหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจจะมีถึง 89% (223 คน) จะเรียกว่า “สภาทหารและข้าราชการ” ก็คงไม่ผิด

ที่ผ่านมามีร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 509 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบและประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้วถึง 412 ฉบับ เฉลี่ยปีละเกือบร้อยฉบับ เฉพาะช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2561 (วันที่ 25-28 ธันวาคม 2561) มีการผลักดันวาระการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายมากถึง 67 ฉบับ และช่วงระหว่างวันที่ 18 มกราคม-18 กุมภาพันธ์ 2562 มีการลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายเพื่อใช้บังคับถึง 66 ฉบับ

“People GO network” เรียกร้องให้ “สภาลากตั้ง” ตระหนักว่าไม่มีความชอบธรรมใดๆ ทั้งในแง่ที่มา กฎหมายที่เขียนขึ้น และการจะทำงานจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งกฎหมายหลายฉบับเป็นไปเพื่อขยายอำนาจรัฐ มีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ลดทอนอำนาจและจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน

ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปี สะท้อนให้เห็นว่า “บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่ปรกติ แต่ถูกทำให้ปรกติ”!

You must be logged in to post a comment Login