วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ม.44เพื่อกลุ่มทุนใหญ่?

On February 28, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 ก.พ. 62)

กรณีที่ประชุม คสช. ที่ “ทั่นผู้นำ” มีการพิจารณาใช้อำนาจตาม “มาตรา 44” ออกคำสั่งตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอให้ขยายเวลาการชำระค่าประมูลคลื่น 900 MHz 3 ผู้ให้บริการมือถือคือ กลุ่มเอไอเอส ทรู และดีแทค เพื่อให้มีเงินมาลงทุนสร้างโครงข่าย 5G เนื่องจากค่ายมือถือไม่มีเงินมาลงทุน ซึ่งเป็นเงินงวดที่ 4 ที่ต้องชำระในปี 2563 จำนวน 120,000 ล้านบาท

ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่และตัดสิทธิกลุ่มทุนอื่นหรือไม่ อย่างที่ “สุภิญญา กลางณรงค์” อดีต กสทช. ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า รัฐไม่ควรใช้มาตรา 44 มาอุ้มเอกชนที่กำไรงามอยู่แล้ว แต่ กสทช. ควรเปิดตลาดใหม่ส่งเสริมการแข่งขันที่เสรี เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคระยะยาว ไม่ใช่อุ้ม “มหาเศรษฐี” ที่มีสิทธิอยู่แล้วเป็นกรณีพิเศษ ถ้าไม่แคร์เสียงจิ้งจกทักก็ขอให้แคร์เสียงแห่งสามัญสำนึกในใจส่วนลึกบ้างว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

ขณะที่ “สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์” ประธาน TDRI ให้ความเห็นในเฟซบุ๊คว่า “นิทาน” เรื่องใหม่ของ กสทช. ที่จะผูกเรื่องการ “อุ้ม” ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ากับการประมูลคลื่น 5G ต่อ เนื่องจากก่อนหน้านั้นก็พยายาม “อุ้ม” ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ากับการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวิดิจิทัล

ทั้งที่ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องรีบร้อนประมูลคลื่น 5G ในย่าน 700 MHz เพราะปัจจุบันยังไม่มีบริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน กสทช. ยังทำโรดแม็พในการประมูลคลื่น 5G ไม่เสร็จ การบริการคลื่น 5G ในปัจจุบันมีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์คือ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ

รัฐบาลจึงไม่ต้องกังวลที่ผู้ประกอบการขู่จะไม่เข้าประมูลคลื่น 5G หากไม่ยืดเวลาชำระค่าประมูลคลื่น 4G แต่เมื่อถึงเวลาให้บริการคลื่น 5G ผู้ประกอบการจะเข้าประมูลเองเพื่อไม่ให้เสียเปรียบรายอื่น

หากรัฐบาลและ คสช. ยืดเวลาชำระค่าประมูลคลื่น 4G จะเสียรายได้อย่างน้อย 16,000 ล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยที่ กสทช. เสนอให้เก็บต่ำมาก

หาก “ทั่นผู้นำ” ใช้มาตรา 44 หลงเชื่อ “นิทานกระต่ายตื่นตูม” ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ถือว่าไม่ได้ทำตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561 ว่าจะต้องไม่ทำให้รัฐและประชาชนเสียหาย ทั้งตอกย้ำวาทกรรมความเหลื่อมล้ำ “รวยกระจุก จนกระจาย” ซึ่งกลุ่มผู้มีอำนาจเป็นเนื้อเดียวกับกลุ่มทุนใหญ่!


You must be logged in to post a comment Login